ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

 “เนื่องจากปัจจุบันนี้ สภาวะที่เรียกว่าสงครามเย็นสิ้นสุดยุติไป จึงมีความเข้าใจอย่างหนึ่งเกิดขึ้นว่า ภารกิจของทหารหมดสิ้นความสำคัญลงไปพร้อมกันด้วย แท้จริงหน้าที่ของทหารหาได้หมดสิ้นความสำคัญหมดลงไปไม่ เหตุเพราะภัยอันตรายและความไม่เป็นปรกติต่างๆ ยังคงคุกคามแผ่ขยายอยู่ทั่วไป ทุกหน ทุกแห่ง ดังที่เห็นจากวิกฤติการณ์อันเกิดขึ้นทั่วโลกในบัดนี้ เพราะฉะนั้น ทหารทุกคนจะต้องยิ่งระมัดระวังปฏิบัติหน้าที่ของตัวให้เข้มงวดและรอบคอบยิ่งขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
ทหารนั้น มิใช่จะมีหน้าที่ใช้ศัตราวุธทำสงครามประการเดียว หากยังต้องปฏิบัติภารกิจด้านกิจการพลเรือน คือใช้ความรู้ ความคิด จิตวิทยา และความเฉลียวฉลาด ซึ่งอาจรวมเรียกได้ว่าอาวุธทางปัญญา เข้าปฏิบัติพัฒนาท้องถิ่นให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความปลอดภัย มีขวัญและกำลังใจที่จะสร้างความดี ความเจริญ ความมั่นคงให้แก่ตนเองและส่วนรวมอีกประการหนึ่งด้วย ดังที่มีผลงานปรากฏชัดเป็นที่ยอมรับทั่วกันแล้ว ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ในโอกาสสำคัญนี้ ทุกคนจึงควรภูมิใจในความเป็นทหารของตน และตั้งปณิธานให้แน่วแน่ที่จะพากเพียร ปฏิบัติตัวปฏิบัติงานให้ถูกต้องเที่ยงตรงครบถ้วน และก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยความกล้าหาญ มั่นใจ จนสัมฤทธิ์ผลเลิศในหน้าที่และการงานทุกอย่างทุกระดับ สมตามที่มุ่งหมายไว้”
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ขอบคุณ...
ข้อมูลจาก http://www.naewna.com/politic/columnist/16536
ภาพประกอบ : www.google.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว...

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ...

รู้จักกับโรงพยาบาลค่าย : โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ

โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ เป็นโรงพยาบาล ที่ขึ้นตรงต่อ มณฑลทหารบกที่ 31 ในสายการบังคับบัญชา , เป็นหน่วยสายแพทย์ขึ้นตรงต่อ กรมแพทย์ทหารบก ในสายเหล่าสายวิทยาการ ปัจจุบัน พันเอกอนุรัฐ ตันติจารุกร เป็นผู้อำนวยการ ตั้งอยู่ที่  161 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัด นครสวรรค์ 60000 โทรศัพท์: 0-5632-5120-1 ประวัติโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ       ไม่มีหลักฐานแน่นอนสำหรับการก่อตั้ง โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่พอประมาณได้ว่าราว ร.ศ. 120 โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติได้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 9 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ในขณะนั้น เรียกว่ากองพยาบาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2476 และได้ย้ายจากบริเวณอาคารกองพันทหารช่างที่ 4 มาตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ปัจจุบันในเขตตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์      ในที่ดินประมาณ 50 ไร่ อาคาร 6 หลัง ชั้นเดียวใต้ถุนสูง อาคารดังกล่าวทางราชการได้สั่งรื้...