ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

๑-๓ พ.ย.๖๐ นี้ ทบ. รับทหารใหม่ ผลัด ๒/๖๐ เข้าประจำหน่วยทหาร

๑-๓ พ.ย.๖๐ นี้ ทบ. รับทหารใหม่ ผลัด ๒/๖๐ เข้าประจำหน่วยทหาร ระบุเป็นโอกาสอันดี ร่วมพัฒนาประเทศตามแนวพระราชปณิธาน
กองทัพบก ขอแจ้งให้ชายไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ ๒/๒๕๖๐ ซึ่งทางราชการได้นัดหมายให้ไปรายงานตัวเพื่อเข้าประจำการในหน่วยทหาร ระหว่าง ๑ – ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นี้ ได้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สัสดีตามหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.๔๐) ให้ตรงตามวันเวลาและสถานที่ พร้อมนำเอกสารสำคัญส่วนบุคคล อาทิ ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน เอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษา และใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.๔๓) รวมถึงยาประจำตัวที่ใช้เป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีปัญหาขัดข้องหรือเหตุสุดวิสัยที่เป็นข้อจำกัดในการเข้ารายงานตัว ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สัสดีเขต/อำเภอ/จังหวัด โดยทันที
โดยในเดือนพฤศจิกายน นี้ กองทัพบก จะรับชายไทยจำนวน ๓๗,๙๘๙ นาย เข้าประจำการในหน่วยทหารทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการฝึก ทั้งด้านการทหาร พัฒนาบุคลิกภาพ รวมถึงการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยขณะนี้กองทัพบก ได้จัดเตรียมความพร้อมในการดูแลทหารใหม่ไว้ทุกด้าน ได้แก่ สถานที่พักอาศัย สถานที่ฝึกศึกษาโดยการดูแลทหารใหม่จะเป็นไปตามมาตรฐานและสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตทหารกองประจำการที่กองทัพบกให้ความสำคัญ ทั้งนี้หลักสูตรการฝึกทหารใหม่จะใช้เวลา ๑๐ สัปดาห์ เริ่มจากการปรับพื้นฐานสภาพร่างกาย การให้ความรู้และฝึกความชำนาญด้านการทหาร เสริมทักษะส่วนบุคคลให้มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจเข้มแข็งตามนโยบาย Smart Man รวมถึงการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ จิตอาสา และการเป็นพลเมืองที่ดี
สำหรับทหารใหม่ที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถสมัครเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่รายงานตัวกับหน่วยทหาร โดยต้องเตรียมหลักฐานทางการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน และภาพถ่ายขนาด ๑ นิ้ว เพื่อสมัครเรียนต่อได้ทันที ส่วนสิทธิต่างๆ ตามระเบียบของทางราชการที่ทหารกองประจำการจะได้รับ อาทิ เบี้ยเลี้ยงเงินเดือน ๑๐,๐๐๐ บาท เครื่องแต่งกาย การรักษาพยาบาล และได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่กองทัพบกจัดทำประกันชีวิตให้เพิ่มเติม ที่สำคัญการได้เข้ามารับราชการทหารในช่วงเวลานี้ จะเป็นโอกาสดียิ่งในฐานะพสกนิกรที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานและดำเนินตามแนวทางพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมราชบพิตร ในด้านการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชนมาตามภาระหน้าที่ของทหาร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว...

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ...

รู้จักกับโรงพยาบาลค่าย : โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ

โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ เป็นโรงพยาบาล ที่ขึ้นตรงต่อ มณฑลทหารบกที่ 31 ในสายการบังคับบัญชา , เป็นหน่วยสายแพทย์ขึ้นตรงต่อ กรมแพทย์ทหารบก ในสายเหล่าสายวิทยาการ ปัจจุบัน พันเอกอนุรัฐ ตันติจารุกร เป็นผู้อำนวยการ ตั้งอยู่ที่  161 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัด นครสวรรค์ 60000 โทรศัพท์: 0-5632-5120-1 ประวัติโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ       ไม่มีหลักฐานแน่นอนสำหรับการก่อตั้ง โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่พอประมาณได้ว่าราว ร.ศ. 120 โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติได้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 9 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ในขณะนั้น เรียกว่ากองพยาบาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2476 และได้ย้ายจากบริเวณอาคารกองพันทหารช่างที่ 4 มาตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ปัจจุบันในเขตตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์      ในที่ดินประมาณ 50 ไร่ อาคาร 6 หลัง ชั้นเดียวใต้ถุนสูง อาคารดังกล่าวทางราชการได้สั่งรื้...