ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปีใหม่แล้ว “จะมอบของขวัญอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง”

ใกล้ปีใหม่แล้ว “จะมอบของขวัญอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง”
เดิมที วันที่ 1 เมษายน เคยเป็นวันขึ้นปีใหม่ สมัยรัชกาลที่ 5 กรุงรัตนโกสินทร์ เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน พ.ศ.2432 ครั้นถึง พ.ศ.2483 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ให้เปลี่ยน 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ สืบจนทุกวันนี้
เหตุที่เคยกำหนดให้ 1 เมษายน เป็น วันเถลิงศก หรือวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากยกย่องช่วง สงกรานต์ ของพราหมณ์เป็นขึ้นปีใหม่ หรือเปลี่ยนศักราชใหม่มาแต่ยุคอยุธยาหรือก่อนหน้านั้น กำหนดวันยังไม่แน่นอนตายตัว แต่ละปีเลื่อนไปมา ทำให้ข้าราชการ ชาวบ้าน สับสนวุ่นวาย จึงให้ถือเอา 1 เมษายน เป็นกำหนดตายตัวว่าขึ้นปีใหม่ในครั้งกาลก่อนเจ้าค่ะ
อดีตไม่มีธรรมเนียมการมอบของขวัญปีใหม่กัน มีเพียงการอวยพรและพากันเข้าวัดทำบุญใส่บาตร แต่เพลานี้เทศกาลปีใหม่กลับกลายเป็นเทศกาลมอบของกำนัลของขวัญของฝาก
ล่าสุดเห็นชาวบ้านร่ำลือกันว่า มีการถามมาว่าอยากได้อะไรจาก พณฯ ท่านนายกลุงตู่ และ ลุงตู่ได้ให้อะไรกับประชาชน อำแดงพินิจพิเคราะห์ดูแล้ว สิ่งที่ประชาชนอยากได้ส่วนใหญ่เป็นนามธรรม เช่น อยากให้คนไทยรักสามัคคีกัน ขอให้จัดการเลือกตั้ง ในขณะที่ลุงตู่จะเน้นลดค่าครองชีพ สนับสนุนผู้มีรายได้น้อย
อำแดงก็มิทราบว่าสิ่งที่อยากได้ กับสิ่งที่ได้รับจะถูกใจกันหรือไม่ อำแดงเพียงสงสัยว่า เราเคยตั้งคำถามไหมว่าปีใหม่นี้
“จะมอบของขวัญอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง”
Cr.อำแดงประไพใคร่รู้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว...

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ...

รู้จักกับโรงพยาบาลค่าย : โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ

โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ เป็นโรงพยาบาล ที่ขึ้นตรงต่อ มณฑลทหารบกที่ 31 ในสายการบังคับบัญชา , เป็นหน่วยสายแพทย์ขึ้นตรงต่อ กรมแพทย์ทหารบก ในสายเหล่าสายวิทยาการ ปัจจุบัน พันเอกอนุรัฐ ตันติจารุกร เป็นผู้อำนวยการ ตั้งอยู่ที่  161 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัด นครสวรรค์ 60000 โทรศัพท์: 0-5632-5120-1 ประวัติโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ       ไม่มีหลักฐานแน่นอนสำหรับการก่อตั้ง โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่พอประมาณได้ว่าราว ร.ศ. 120 โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติได้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 9 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ในขณะนั้น เรียกว่ากองพยาบาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2476 และได้ย้ายจากบริเวณอาคารกองพันทหารช่างที่ 4 มาตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ปัจจุบันในเขตตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์      ในที่ดินประมาณ 50 ไร่ อาคาร 6 หลัง ชั้นเดียวใต้ถุนสูง อาคารดังกล่าวทางราชการได้สั่งรื้...