![]() ศูนย์การศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ในระบบนิเวศป่าชายเลนสาธารณที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมได้นอกจากนี้ชุมชนและเยาวชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ในระบบนิเวศป่าชายเลนสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมได้นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่อนุบาลสัตว์น้ำเช่นปูกุ้งหอยซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำหรับการดำรงชีวิตอย่างพึ่งพากันและกันระหว่างมนุษย์ –สัตว์ –ป่าไม้อย่างสมดุล ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นที่เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย เดิมเป็นพื้นที่สัมปทานนากุ้งในช่วงปี พ.ศ.2524-2539 ป่าผืนนี้ฟื้นชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จฯ ปราณบุรี ปี พ.ศ.2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพื้นที่ในบริเวณนี้ ที่วนอุทยานปราณบุรี พระองค์ทรงประทับรถผ่านพื้นที่แห่งนี้แล้วเห็นว่าพื้นที่ได้กลายเป็นนากุ้งไปหมดแล้ว จึงมีพระราชดำรัสกับทางเจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ว่า “ป่าของฉันหายไปไหน” กรมป่าไม้สนองพระราชดำริ ด้วยการยกเลิกสัมปทานและผนวกเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกทั้งยังดำเนินการฟื้นฟูป่าด้วยการกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายปลูกป่า (Forest Plantation Targer- FPT) ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ในปี พ.ศ.2539 ซึ่ง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมโครงการและดำเนินการปลูกป่าชายเลน เพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ในเวลาต่อมา การมาเที่ยวชมสิรินาถราชินี เริ่มจากการเข้าฟังบรรยาย แล้วเดินไปชมนิทรรศการจะทำให้เข้าใจพื้นที่และรู้ถึงจุดน่าสนใจต่างๆในศูนย์ก่อนที่จะไปเจอกับของจริง ซึ่งจะมีมัคคุเทศน์น้อยช่วยนำทางให้ ![]() ส่วนที่มาของชื่อศูนย์แห่งนี้ ได้มาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2547 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานนามให้กับทางศูนย์ว่า “สิรินาถราชินี” เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เราเดินกันมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่นานในการเดินเที่ยวชม ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติเราจะเห็น ความอุดมสมบูรณ์ที่ฟื้นกลับมาจริงๆ จากที่แล้งๆโล่งๆกลายมาเป็นอย่างนี้ได้น่าทึ่งจริงๆ ป่าโกงกางที่ปลูกมาทั้งหมด ปลาตีนที่เราเห็นอยู่มากมาย ยังมีปูก้ามดาบทั้งตัวเล็กตัวน้อยอีกนับไม่ถ้วน ![]() หอชมวิว ...ที่จุดนี้เราจะมองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่โดยรอบทั้งหมดว่ากว้างขวางขนาดไหน เป็นจุดที่เราจะเดินขึ้นหอคอยที่สูงกว่ายอดโกงกางค่อนข้างมาก ด้านบนจะมีบอร์ดนิทรรศการให้ความรู้เราอยู่ด้วย รูปภาพเปรียบเทียบทิวทัศน์ในอดีต และเมื่อมีการปลูก ค่อยๆโต จนถึงที่ตามองเห็น ถ่ายภาพในจุดเดียวกันแบบพานอรามาไว้ ให้เห็นความเปลี่ยนแปลง ใครท้อใจเรื่องการปลูกต้นไม้ มาดูศูนย์ฯ นี้รับรองมีกำลังใจปลูกอีกมาก ความพยายามต้องใช้เวลาและความอดทน จนในที่สุดเราก็ได้ป่าอย่างที่เห็น ![]() ก่อนที่จะเดินออก เพื่อเดินทางกันต่อ น้องมัคคุเทศก์น้อยชี้ให้เราดูต้นโกงกางที่ในหลวงและพระราชินีทรงปลูกไว้ เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะประทับใจในการสร้างที่นี่ขึ้นมาจริงๆ การเดินทางมา ศูนย์การศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จากหัวหินใช้ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปปราณบุรีเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกปราณบุรีใช้ทางหลวงหมายเลข 3168 มีป้ายบอกเป็นระยะๆ Tel. 032-632255 หากสนใจเดินทางมาเที่ยวที่ศูนย์สิรินาถราชินี สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0-3263-2255 ขอบคุณ: สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก(สง.ทท.ทบ.) โทร. 0 2282 6835, 0 2297 5831, 0 831 232 647 โทรสาร. 0 2282 6835 โทร.ทบ. 95831 โทรสาร.ทบ. 9163 เว็บไซต์ : http://www.armytour.tht.in/ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) โทร.0 2192 1924-6 โทรสาร.0 2192 1951-2 e-mail: adtthai@gmail.com เว็บไซต์ : www.domesticthailand.com |
สด. 8 ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ ) เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง ) แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น