ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การจัดทัพ ของทีมงานก้าวทีละก้าว

อีกหนึ่ง ผู้ร่วมเดินทางในทีมงาน ก้าวคนบะก้าว ที่ผมอยากแนะนำให้รู้จักครับ เราทราบถึงการจัดทัพ ของทีมงานก้าวทีละก้าวกันรึยังครับ ลองอ่านดูครับ
#ก้าวทีละก้าว
#องค์รักษ์พิทักษ์พี่ตูน
การจัดขบวนการวิ่งของพี่ตูนจะเริ่มด้วยรถนำ ซึ่งเป็นรถของตำรวจกองบังคับการทางหลวงพื้นที่นั้นๆ ตามด้วยรถกระบะของสถานีตำรวจท้องที่ จากนั้นจะเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของทีมงาน พร้อมกับรถจักรยานยนต์ส่วนล่วงหน้าที่คอยตรวจสอบเส้นทางการวิ่ง พร้อมคอยทำหน้าที่ในการกันประชาชน และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรของขบวนการวิ่ง ถัดมาจะเป็นรถยนต์สีแดงของทีมงาน ที่คอยบอกว่าทีมงานวิ่งมาแล้วกี่กิโลเมตร ตามมาติดๆก็เป็นรถยนต์สีขาวที่ทำหน้าที่ live ผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊กก้าวคนละก้าว ที่ภายในรถคันนั้นจะถ่ายทอดสดบรรยากาศการวิ่งของพี่ตูนและทีมงานตลอดเส้นทาง
โดยมีพี่โด๋ พี่ก้อย รัชวิน พี่เบล ซึ่งเป็นทีมงาน และล่าสุดมีพี่โน๊ต อุดม แต้พาณิช คอยสลับสับเปลี่ยนกันบรรยากาศการถ่ายทอดสด
ส่วนทีมวิ่ง ที่คอยวิ่งเคียงบ่า เคียงไหล่ไปกับพี่ตูน คนแรกที่คุ้นหน้ากันดีสำหรับโครงการนี้ คือ หมอเมย์ แพทย์หญิงสมิตตา สังขะโพธิ์ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่วิ่งไปกับพี่ตูน หมอเมย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ประจำโรงพยาบาลพระราม 9 ที่วิ่งกับพี่ตูนเพื่อดูแลสภาพร่างกายของพี่ตูน
คนถัดมา คือพี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทอง นักวิ่งมาราธอนตัวยงคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในวงการการวิ่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่วิ่งข้างกายพี่ตูนตลอดเส้นทางตั้งแต่โครงการก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน
อีกคนหนึ่งที่แรกเริ่มโครงการ หลายคนสงสัยว่าเขาคือใคร ที่วิ่งร่วมไปกับพี่ตูนในทุกเซท คอยกันประชาชนเพื่อไม่ให้พี่ตูนบาดเจ็บ แต่เขายอมเจ็บแทน
นั่นคือ สิบเอก สุพิศ จันทรัตน์ ทหารรบพิเศษ
จาก กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 กองทัพภาคที่ 4 อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ "หมู่เอียด" ที่เขาได้รับคัดเลือกจากหน่วย หลังจากที่ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ที่เติบโตจากรบพิเศษ ให้หน่วย ทบ.ในพื้นที่ คอยดูแล "พี่ตูน บอดี้สแลม" ตั้งแต่แรกที่ วิ่ง จาก เบตง จ.ยะลา เพื่อดูแลความปลอดภัย ในทุกมิติ ให้ ฮีโร่ของคนไทยสู่เป้าหมายให้สำเร็จและปลอดภัย นอกจากเป็นทหารรบพิเศษแล้ว หมู่เอียด ยังเป็นนักวิ่งมาราธอน ที่ล่าสุด เพิ่งลงแข่ง วิ่งระยะทาง 42 กิโลเมตรเศษ ในนามทีมกองทัพบก และคว้ารางวัลชนะเลิศ เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งอีกด้วย
การแข่งขันวิ่งมาราธอน “เดอะ เกรทเทส เรส ออน เอิร์ธ” ณ สนามที่ 3 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย นักวิ่งตัวแทนจากทีมชาติไทย “สุพิศ จันทรัตน์” คว้ารางวัลชนะเลิศรองอันดับ 1 ประเภททีมชาติ ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยสถิติ 02:40:13 มาครอง โดยขณะนี้ผลคะแนนรวมของทีมชาติไทยสำหรับทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในลำดับที่ 2 และเป็นลำดับที่ 11 จากทีมชาติ 29 ประเทศทั่วโลก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ