ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รู้จักกับโรงพยาบาลค่าย : โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ

โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ

เป็นโรงพยาบาล ที่ขึ้นตรงต่อ มณฑลทหารบกที่ 31ในสายการบังคับบัญชา ,เป็นหน่วยสายแพทย์ขึ้นตรงต่อ กรมแพทย์ทหารบก ในสายเหล่าสายวิทยาการ ปัจจุบัน พันเอกอนุรัฐ ตันติจารุกร เป็นผู้อำนวยการ



ตั้งอยู่ที่ 
161 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัด นครสวรรค์ 60000
โทรศัพท์: 0-5632-5120-1




ประวัติโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ
      ไม่มีหลักฐานแน่นอนสำหรับการก่อตั้ง โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่พอประมาณได้ว่าราว ร.ศ. 120 โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติได้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 9 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ในขณะนั้น เรียกว่ากองพยาบาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2476 และได้ย้ายจากบริเวณอาคารกองพันทหารช่างที่ 4 มาตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ปัจจุบันในเขตตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์
     ในที่ดินประมาณ 50 ไร่ อาคาร 6 หลัง ชั้นเดียวใต้ถุนสูง อาคารดังกล่าวทางราชการได้สั่งรื้อไปแล้ว 3 หลัง เพราะชำรุดมาก อีก 3 หลัง ภาพพจน์ที่เห็นในปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้อนุมัติให้รื้อถอนแล้วตามหนังสือที่ กค. 0405/01602 ลง 5 เม.ย
จากการที่เป็น โรงพยาบาลที่ ขึ้นตรงต่อหน่วยงานทหาร ทำให้มีประวัติการ เข้าร่วมรบ ดังนี้
 การเข้ารวมรบ
§  พ.ศ. 2483 จัดกำลังพลสนับสนุนออกปฏิบัติราชการสนามในสงครามอินโดจีน ที่กองพลพายัพ จังหวัดอุตรดิตถ์
§  พ.ศ. 2485-พ.ศ. 2487 จัดกำลังพลสนับสนุนออกปฏิบัติราชการสนามในสงครามเอเชียบูรพาร่วมกับกองพลที่ 4 จังหวัดเชียงราย
§  พ.ศ. 2522 - พ.ศ. 2524 จัดกำลังพลสนับสนุนออกปฏิบัติราชการสนามในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 อำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี
§  พ.ศ. 2549 จัดนายแพทย์และศัลยแพทย์ สนับสนุนภารกิจ ฉก.ผบ.สน.ใน 3 จังหวัดภาคใต้

ภารกิจ
  • 1        ให้ทหารบริการแพทย์ในการตรวจและรักษาพยาบาลแก่กำลังพล และครอบครัวของหน่วยทหารในพื้นที่ มทบ.31 และหน่วยใกล้เคียง
  • 2.         ให้การบริการแพทย์ในการตรวจ และรักษาพยาบาลแก่บุคคลทั่วไปในจังหวัดนครสวรรค์ และพื้นที่ใกล้เคียง
  • 3.         ทำการส่งกำลังให้กำลังพลของหน่วยทหารในพื้นที่ มทบ.31 และหน่วยใกล้เคียง
  • 4.         สนับสนุนทางการส่งกำลังสายแพทย์ให้แก่หน่วยในพื้นที่ มทบ.31 และหน่วยใกล้เคียง
  • 5.         ให้การศึกษาฝึกและอบรมวิชาเฉพาะเหล่าแพทย์ แก่พลเสนารักษ์ของหน่วยในพื้นที่ มทบ.31 และหน่วยใกล้เคียง

ขีดความสามารถ
  • 1.         ดำเนินการตรวจวินิจฉัยโรคทุกสาขา และให้การรักษาพยาบาลด้วยวิธีต่าง ๆ ให้แก่ทหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง ตลอดจนครอบครัว และบุคคลพลเรือนทั่วไปตามความจำเป็น
  • 2.         ดำเนินการทางเวชกรรมป้องกันให้กับหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบ
  • 3.         ดำเนินการฝึกอบรมวิทยาการทางการแพทย์ให้กับกำลังพลตามที่ได้รับมอบหมาย
  • 4.         ดำเนินการสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยเจ็บ
  • 5.         ดำเนินการฝึกอบรมให้กับทหารกองประจำการ เหล่าทหารแพทย์ตามที่ได้รับมอบหมาย
  • 6.         สามารถสนับสนุน ส.ป.สายแพทย์ หรือจัดตั้งคลัง สป.สายแพทย์ สนับสนุนหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
  • 7.         ในอัตราเต็มสามารถจัดเจ้าหน้าที่ชุดศัลยกรรมสนาม สนับสนุนหน่วยเสนารักษ์ ซึ่งมาปฏิบัติการในพื้นที่ได้ 1-2 ชุด ในห้วงเวลาจำกัด
  • 8.         ปฏิบัติงานเป็น รพ. ขนาด 180 เตียง ในอัตราระดับ 1 และ 150 เตียง ในอัตราระดับ 2 ได้ ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 90 เตียง
  • 9.         ทำการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ในอัตราขึ้นหน่วยได้
  • 10.    ทำการระวังป้องกันตนเองได้อย่างจำกัด 


ปัจจุบัน โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ
  • §  เป็นโรงพยาบาลกองทัพบก ขนาด 150 เตียง สามารถขยายได้เป็น 200 - 250 เตียง ในภาวะสงครามหรือสถานการณ์จำเป็น
  • §  เป็นสาขาบริการโลหิตแห่งชาติของสภากาชาดไทย สาขาที่ 364
  • §  เป็นโรงพยาบาลเสริมทักษะของแพทย์จบใหม่



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ