ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดยุทธการล้อมเมืองสกัดผู้ก่อการไม่สงบแฝงตัวก่อเหตุในเมืองนราธิวาส

 เปิดยุทธการล้อมเมืองสกัดผู้ก่อการไม่สงบแฝงตัวก่อเหตุในเมืองนราธิวาส
เมื่อทหารร่วมมือฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ
ช่วงเวลา 21.00 - 05.00 น. ของแต่ละวัน จะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีมีแผนที่จะก่อเหตุร้ายเพื่อบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของนักลงทุน ที่ขยายผลไปสู่การบ่อนทำลายด้านเศรษฐกิจของนราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการปรับแผนยุทธการล้อมเมืองรักษาถิ่น ด้วยการเสริมกำลังทหารพรานหญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจตราและทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมืองเพื่อลบภาพลักษณ์ใช้การความรุนแรง ประการสำคัญมีการนำกำลังภาคประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเปิดร้านจำหน่ายอาหาร น้ำชากาแฟ ที่เปิดจำหน่ายตามซอกมุมเมืองของชุมชน ทำหน้าที่ในการแจ้งเบาะแสของความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลแปลกหน้าต้องสงสัยนอกพื้นที่
เน้นย้ำให้มีการเปิดแผนปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนสามารถที่จะปรับสภาพมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนในอดีต แล้วความสันติสุขในพื้นที่จะกลับมาสู่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความหวาดระแวงก็จะหมดไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตามยุทธการล้อมเมืองรักษาถิ่นของเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย จะสนธิกำลังกันปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 60 เป็นต้นไป โดยเน้นให้ภาคประชาชนมามีส่วนร่วมในการรักษาถิ่นเกิด.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ