ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เคยสงสัยว่าตอบจบของไซอิ๋วคืออะไร

 
เคยสงสัยว่าตอบจบของไซอิ๋วคืออะไร เพราะสารภาพตามตรงว่าไม่เคยอ่านจริงๆจังสักที เคยฟังแต่เค้าเล่ามากับดูละครช่อง 3 รู้แต่ว่าเป็นนิยายที่แต่งขึ้นโดยยืมท่านเสวียนจ้าง ที่ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดีย แต่แต่งให้มีอภินิหารอ่านสนุก ก็เท่านั้น ....
วันนี้เลยนั่ง google ดู กลายเป็นนั่งอ่านไป 4-5 ชั่วโมง แล้วก็ไปเจอที่เค้าเฉลยว่า ทำไมไซอิ๋วคือนิยายที่ทรงอิทธิพลของจีน ไม่ใช่แค่มันแฟนตาซีเท่านั้น แต่ไซอิ๋วคือการกางพระไตรปิฎกออกมาแล้วเขียนใหม่ในมุมนิทาน
รู้แค่ว่าพระถังคือศรัทธา จะไปชมพูทวีป ต้องมีศรัทธาก่อน พกจิตไปด้วยซึ่งจิตคนเรา ประกอบด้วย โทสะ - หงอคง โกรธ , โลภะ - ตือโป๊ยก่าย โลภ , โมหะ - ซัวเจ๋ง ความไม่รู้
ก็แค่นั้น จน Google เจอที่เค้าอธิบายแต่ละบทแบบละเอียด ทึ่งเลยในความสามารถของคนแต่ง
หงอคงแปลงกายได้ เหาะเหิน เดินอากาศได้ ทำอะไรก็ได้ เพราะหงอคง คือจิตคนเรา ที่เป็นลิง ไม่อยู่นิ่ง คิดไปเรื่อย แค่คุมให้ตามลมหายใจยังยากเลย ดังนั้น ถ้าเราคุมหงอคงได้ .... การไปชมพูทวีปจะง่ายขึ้น ... เป็นต้น
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกรธ - โทสะ เราจะเหมือนหงอคง แผลงฤทธิ์ พังพินาศ ราบเป็นหน้ากลอง
แต่หงอคงแพ้อะไร ? โดนขังไว้ที่อะไร ? ใช่แล้ว แพ้ฝ่ามือยูไล โดนขังไว้ที่เขา 5 นิ้ว
ฝ่ามือยูไล และเขา 5 นิ้ว แทน ขันธ์ 5
ต่อให้จิตแน่แค่ไหนสุดท้ายก็ไม่พ้นขันธ์ 5
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
นอกจากนี้หงอคงยังมีกระบองวิเศษจัดการปีศาจได้ตลอด กระบองนั้นแทนปัญญา แต่ทว่า มีจิต กับปัญญา แค่นั้นมักเกิดปัญหา พระยูไลจึงประทานมงคล มารัดหัวไว้ ให้พระถังคอยดูแล มงคลนั้นก็แทน "สติ" ซึ่งมงคลเป็นรัดเกล้า 3 ห่วงคล้องกัน แทนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา
ปีศาจแต่ละตัว แทนกิเลสที่เราต้องค่อยกำจัดออกไป
ตอนเจอกันครั้งแรกเห้งเจียบอกพระถังว่า
จะไปชมพูทวีปผมพา อาจารย์ตีลังกาไปได้ 7 ทีถึง
มามัวเสียเวลาเดินทำไมกัน ไม่เข้าใจ พระถังบอกว่าไม่ได้ต้องเดินไป
ปริศนาธรรมข้อนี้บอกว่า จิต+ปัญหา ฟังเค้าเล่า ฟังเค้าบอก คิดเอาเองก็บอกง่าย แปบเดียวก็ไปถึงนิพพานละ
เช่น เนี่ยคนเล่าให้ฟังอริยสัจ 4 ทางดับทุกข์ ฟังเข้าใจละ แต่จริงๆ แล้วไม่เข้าใจ ธรรมมะต้องลงมือปฎิบัติ เหมือนหงอคงบอกตีลังกาไป 7 ที มันไปไม่ถึง ต้องค่อยๆ เดินไป ศึกษาไป ปฎิบัติไป ถึงจะถึง
โป๊ยก่าย คือศีล 8 , ซัวเจ๊ง คือสมาธิ
ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ จึงจะพ้นทุกข์
แต่บางครั้งปีศาจบางตัวก็เก่งเหลือเกิน
ต้องไปตามเจ้าแม่กวนอิมมาช่วย
เจ้าแม่กวนอิม คือ เมตตา
ปัญญา + เมตตา จะกลายเป็นสัมมาทิฏฐิ ธรรมชั้นสูงซึ่งปราบกิเลสได้เสมอ แต่เจ้าแม่กวนอิม มักให้เห้งเจียลองสู้จนหมดแรงก่อน ถึงมาช่วย เหมือนหากมีกิเลสควรให้ปัญญาลองขจัดดูก่อน เกินกำลังแล้วจึงให้เมตตาปล่อยวาง
ถ้าเกินกำลังเมตตา เจ้าแม่กวนอิมช่วยไม่ไหว
คนสุดท้ายที่มักมาช่วย คือ พระยูไล
พระยูไล แทน พระอริยสงฆ์ ท้ายที่สุดถ้าปฎิบัติไม่ไหวก็ถามผู้รู้เอา .... จบแน่นอน
ลำดับปีศาจแต่ละตัวในเรื่องก็เจ๋งมาก
เช่นเมื่อเริ่มเดินทาง ก็พบโจรทั้งหก ขัดขวางไม่ให้ไป
สุดท้ายเห้งเจียเลยเอากระบองตีจนตาย
โจรทั้งหกคือ อายตนะ 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ ต้องเอา ปัญญา (ตะบอง) ฟาดให้ตายก่อนถึงเริ่มออกเดินทางได้
แล้วก็เจอปีศาจไปเรื่อยๆ อ่านยังไม่จบ ท่าทางอีกหลายวัน
อ้อ แต่แอบโกงมาละ เปิดดูตอนจบ
สรุป ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ เดินทาง
กำจัดกิเลสไปจนถึงชมพูทวีป แล้วได้อะไร
ตอนจบพระถังและคณะ มาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง
สายน้ำเชี่ยวกรากมาก ไม่รู้จะข้ามไปยังไง
จนเจอเรือไร้ท้องเรือจอดอยู่ พระถังกังวลมาก
เรือไม่มีท้องเรือจะพาข้ามฟากยังไง
แต่สุดท้ายก็ยอมใช้เรือข้ามไป
แม่น้ำเชี่ยวกรากแทนกองกิเลส
เรือนั้นแทน สุญญตา ความไม่ยึดมั่นถือมั่น
เมื่อข้ามมาแล้วก็ถึงชมพูทวีป
และได้คัมภีร์มา เป็นหนังสือเปล่าหนึ่งเล่ม
แทนธรรมมะ ซึ่งคือความว่างเปล่า ...นิพพาน
แต่สุดท้ายเห้งเจียขอให้มีอะไรกลับไปจีนหน่อย
เพราะคนธรรมดาคงไม่เข้าใจ
เลยได้คัมภีร์มาอีกเล่มนึง เต็มไปด้วยอักษร
บันทึกการเดินทาง เรียกว่า พระไตรปิฎก ... จบ
อ่านแล้วคารวะคนแต่งเลย .... โห เก่งจัง
ปล. เข้าใจว่ามีหนังสือแปลที่ละบททีละตัวละคร ชื่อ "เดินทางไกลไปกับไซอิ๋ว" ว่าแล้วต้องไปหามาอ่านก่อน
ถามว่าถ้าพุทธ มีไซอิ๋ว แล้วคริสต์ละมีไหม
ว่ากันว่าของศาสนาคริสต์ คือ นาเนียร์
ใช่แล้วที่ทำเป็นหนัง มี 7 เล่มแทนบาป 7 ประการ
ปล. ข้อความคนอื่นครับ
ไม่เคยดูในมุมแบบนี้เลยเหมือนกันเลยอยากฝากผู้รู้ ช่วยพืสูจน์หน่อยว่าจริงตามนี้มั๊ย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ