เดิมพันของคนทั้งชาติ
"บิ๊กตู่"ชี้ ปฏิรูป-ปรองดอง ไม่ใช่เดิมพันของรัฐบาลและ คสช. แต่เป็นเดิมพันของคนทั้งชาติ /ขอช่วยกันต้านทุจริต ลั่น"คนโกงรายเก่าจะต้องหมดไป คนโกงรายใหม่ต้องไม่เกิด และไม่เปิดโอกาสให้มีการโกงในทุกวงการ"/ สั่งตรวจสอบ สินบนRR หาตัวคนผิด
เสธ.ไก่อู พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวอ้างจากสื่อมวลชน นักวิชาการ และนักการเมือง ว่า เรื่องของการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง เป็นเดิมพันสูงยิ่งของรัฐบาลและ คสช. นั้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ทุกเรื่องที่พูดมาทั้งหมด ไม่ใช่เดิมพันของรัฐบาลหรือ คสช. แต่เป็นเดิมพัน ของคนไทยทุกคนที่จะร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น
ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใด อาชีพใด ต้องช่วยกันคือ การเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คิดอย่างสร้างสรรค์พาชาติก้าวไปข้างหน้า ไม่โยนภาระให้ใครคนใดคนหนึ่ง และต้องลงมือทำ ไม่ใช่พูดเพียงอย่างเดียว”
พลโท สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้ยกตัวอย่างเรื่องการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ว่า เป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่รัฐบาลปฏิรูปอย่างจริงจังเพื่อลดความสูญเสียของประเทศอย่างยั่งยืน โดยประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ
"คนโกงรายเก่าจะต้องหมดไป คนโกงรายใหม่ต้องไม่เกิด และไม่เปิดโอกาสให้มีการโกงในทุกวงการ"
จนล่าสุดดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยในเดือน ธ.ค.59 ที่สำรวจโดย ม.หอการค้าไทย อยู่ในระดับ 55 ซึ่งดีที่สุดในรอบ 6 ปี
หลังจากคนโกงถูกปิดโอกาส โดยยอดการจ่ายเงินใต้โต๊ะลดลงเหลือร้อยละ 15 จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 90
สำหรับกรณีการทุจริตจัดซื้อเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับ บริษัทการบินไทย และบริษัท ปตท นั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้มีการตรวจสอบและหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
พร้อมกับวางแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ เอกชน และประชาชน ต้องไม่ทุจริตเสียเองและไม่ผลักภาระให้กับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลต่อคะแนนและการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (CPI) ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่จะจัดอันดับปลายเดือน ม.ค.นี้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสังคมก็คงต้องมองย้อนกลับไปพิจารณาดูว่าเป็นยุคสมัยใด”
Cr. facebook/wassana nanuam
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น