ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Filter Bubble กะลาของบุญชิต ตอนที่ 1

อยากให้หลายๆคนได้อ่าน เป็นอีกหนึ่ง Blog ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องนี้ ลองอ่านดูครับ


ในแต่ละวัน คุณรู้ข่าวสารบ้านเมืองส่วนใหญ่จากเฟซบุ้คหรือทวิตเตอร์ ใช่หรือไม่ ?
ในปีที่ผ่านมา คุณดูข่าวจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์น้อยลง ใช่หรือไม่?
ถ้าใช่ บล็อกนี้คือเรื่องราวของคุณ

-----------------------------
รู้จักบุญชิต
------------------------------
ก่อนจะเป็นเรื่องของคุณ ผมขอเวลาคุณ 3 นาที รู้จักบุญชิตซักนิดนึงครับ
บุญชิตเป็นนักศึกษาแพทย์ ในแต่ละวันเขาต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้ารีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปราวด์เช้า(ดูแลคนไข้)ที่วอร์ด จากนั้นก็ต้องกระหืดกระหอบมาเข้าห้องเล็คเชอร์ ตกบ่ายก็ต้องเข้าช่วยในห้องผ่าตัด เลิกราวด์เย็นก็ประมาณทุ่มกว่าๆแล้วก็ต้องนั่งรถกลับบ้านอีกเกือบชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงแทบไม่มีเวลาดูทีวี ชีวิตของเขารู้เรื่องข่าวสารในแต่ละวันก็ผ่านสมาร์ทโฟน
เขามีเฟรนด์ในเฟซบุ้ค 400 คน , กดไลค์เพจไว้ทั้งหมด 200 เพจ
เพจสำนักข่าวแบบไทยรัฐ มติชน BBC ฯลฯ ก็เป็นเพจที่เขากดไลค์ไว้แต่ไม่ค่อยได้เข้าไปเขียนคอมเม้นต์ เขาแค่อ่านผ่านตา เพจส่วนใหญ่ที่บุญชิตเข้าไปแชร์หรือเม้นต์ส่วนใหญ่คือเพจดังๆเช่น เพจดราม่า , เพจสัตว์โลกอมตีน ฯลฯ
และเรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 12 เมษายน 2560
12 เมษายน 2560
บุญชิตก็คงเหมือนคุณนะครับ ที่ใช้เวลาเสพข่าวสารรอบตัวผ่านมือถือช่วงระหว่างต่อคิวซื้อข้าว , คั่นเวลาตอนเบื่อๆ , ระหว่างโหนรถไฟฟ้ากลับบ้าน ฯลฯ แล้ววิธีการอ่านข่าวก็ไม่ใช่เข้าไปที่เพจสำนักข่าวแบบ BBC หรือไทยรัฐแล้วไล่เรียงอ่านทีละข่าวเหมือนอ่านหนังสือพิมพ์
แต่เราเปิดจากหน้า feed ไถๆลงมา ดูว่าสเตตัสหรือลิงค์ข่าวไหนน่าสนใจก็คลิกเข้าไปอ่านต่อ และข่าวต่อไปนี้คือข่าวที่ผ่านตาบุญชิตในวันที่ 12 เมษายน
(1) สั่งคุมเข้มทั่วกรุงสงกรานต์ ห้ามรถน้ำ รถเต้น เข้าในถนนสำคัญแทบทุกสาย
(2) ก.ดิจิทัลฯประกาศให้ปชช.งดติดตาม-ติดต่อ บุคคล3ราย ไม่ว่าเจตนาหรือไม่เจตนา
(3) สุวรรณภูมิโกลาหล! ลอยแพทัวร์หมื่นเดียวเที่ยวญี่ปุ่น แฉซื้อผ่านบริษัทขายตรง 2 พันชีวิตฝันสลายที่สนามบิน
(5) เลิกคุมพื้นที่ธรรมกาย รัฐยันคลี่คลายแล้ว คงม.44 เอาไว้ต่อไป
ฯลฯ
“เรื่องน่าอ่านทั้งนั้น” บุญชิตคิดในใจ
นี่ยังไม่นับสเตตัสส่วนตัวของเพื่อนอีกประมาณยี่สิบสเตตัส อาทิเช่น
(1) ไอ้ต้อมเพื่อนร่วมชั้นปี เช็คอินที่ตลาดปลาซึกิจิ โพสต์ว่าวันนี้ปลาสดมาก
(2) อาจารย์ชูศรีโพสต์ประสบการณ์เรียกแท็กซี่แล้วไม่รับเพราะต้องรีบส่งแก๊ส
(3) ยัยน้ำอ้อย เพื่อนสมัยมัธยมโพสต์รูปลูกพร้อมแคปชั่นเล่าเรื่องที่ลูกงอแงเมื่อเช้า จนพ่อต้องใช้วิธีไทม์เอาท์แต่ก็ไม่ได้ผล ฯลฯ
(4) ใครก็ไม่รู้ชื่อ ‘อารยา รักประเทศไทย’ ที่เคย add มาเป็นเฟรนด์ตอนไหนก็ไม่รู้ โพสต์สเตตัสเวิ่นๆบางอย่างที่เขาอ่านไม่เข้าใจ
(5) เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักผ่านเพื่อนในที่ทำงานของเพื่อนที่เจอตอนงานปีใหม่ โพสต์ท่อนขาตัวเองสวมกางเกงยีนตัวใหม่พร้อมแคปชั่นว่า “สายแดก พร้อมกันหรือยัง อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
ฯลฯ
สมองของบุญชิตก็เหมือนสมองของคุณ
เราต่างมีขีดจำกัดของกำลังสมองหรือ cognitive abilities เหมือนกำลังกายที่คุณไม่สามารถจะวิ่งสิบกิโลแล้วยังมีแรงเต็มร้อย มันมีความล้า มีขีดจำกัด รวมถึงเวลาของเราก็มีจำกัด เราไม่ได้ว่างนั่งอ่านข่าวทั้งวัน
ดังนั้นเราต้อง ‘เลือก’ ว่าจะอ่านข่าวสารอะไรและไม่อ่านอะไร
สรุปรวมๆแล้วในหนึ่งวันของ 12 เมษายน 2560 ‘สมองของบุญชิต’ เลือกใช้งานไปกับข่าวสารที่ผ่านตาตามสัดส่วนประมาณนี้ (ใกล้เคียงกับการอ่านข่าวของคุณมั้ยครับ?)
12 เมษายน กับ เรื่องที่คุณไม่เคยรู้
เรื่องของบุญชิตก็คงจบแค่นี้ หากมิใช่ว่าตอนหัวค่ำมีเพื่อนคนหนึ่งทักเขาในไลน์
บุญชิตคิดว่าตัวเองอ่านเยอะครับ ติดตามข่าวสารเกือบทั้งวันตามที่เพื่อนๆแชร์มา อ่านข่าวสารทุกวันตามเพจดังๆ โอเคหละ คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง พวกงานบุญที่วัดชากค้อหรือเทศกาลแห่ตะมุตะมิที่คานาซาว่าอาจไม่ใช่เรื่องต้องรู้ก็ได้ แต่บุญชิตไม่คิดว่าเขาจะพลาดเรื่องสำคัญๆ
บุญชิตอึ้ง เมื่อเพื่อนคนหนึ่งทักแชตถามว่า รู้เรื่องระเบิดในอียิปต์เมื่อวันที่ 9 เมษายนมั้ย เพราะไม่เห็นบุญชิตตั้งสเตตัส Pray for ...
คืองี้ครับ ที่เพื่อนสงสัยเพราะปกติบุญชิตจะมีความเห็นใจอินเทรนด์เสมอ เช่น เขาเป็นคนแรกๆที่ตั้งสเตตัสกับเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็น Pray for ตอนก่อการร้ายปารีส ฯลฯ
แต่บุญชิตไม่รู้สี่รู้แปดใดๆกับเหตุระเบิดในอียิปต์ที่มีผู้เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บกว่า 70 ราย พอบุญชิตกูเกิ้ลตามที่เพื่อนถามถึงเจอข่าวนี้
เหตุการณ์สามวันก่อนแท้ๆและก็เป็นข่าวใหญ่ ทำไมเขาไม่รู้เลย ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ