ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คสช. ยังคงเตรียมความพร้อมทุกด้านในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

คสช. ยังคงเตรียมความพร้อมทุกด้านในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เดินหน้าชี้แจงงานรัฐให้ประชาชนเข้าใจ ขณะเดียวกันเร่งเข้าคลี่คลายอุทกภัยในทุกพื้นที่
วันนี้ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามที่รัฐบาลได้มอบหมาย โดยเฉพาะการจัดริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ, การทำงานในส่วนของกองอำนวยการร่วม
รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สนามหลวง, การจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง ๙ แห่งใน กทม. และในอีก ๗๖ จังหวัด และการจัดเตรียมพื้นที่ให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ โดยให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนเพื่อให้การเตรียมความพร้อมในงานพระราชพิธีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และสมพระเกียรติ

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวชื่นชมที่หน่วยงานในระดับพื้นที่ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือดูแลประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความเดือดร้อน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเส้นทางสัญจรในพื้นที่น้ำท่วม จึงขอให้ดำรงการช่วยเหลืออุทกภัยอย่างเต็มที่ สำหรับการส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากส่วนกลาง ก็มีความพร้อมทั้งเรื่องยุทโธปกรณ์และเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย
นอกจากนี้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงการทำงานในช่วงต่อไป ที่ยังคงต้องให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
อย่างเข้มแข็ง พร้อมชี้แจงข้อมูลความคืบหน้าในมาตรการและนโยบายของรัฐให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในเรื่องการปรับโครงสร้างภาษี สุรา ยาสูบ ซึ่งสังคมให้ความสนใจ ขอให้ร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงการตรวจสอบและเฝ้าระวังมิให้มีการกักตุนสินค้าที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้บริโภคด้วย อย่างไรก็ตามในห้วงเวลาต่อจากนี้ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางสังคมในทุกมิติ การตัดสินคดีความสำคัญ การออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมทั้งการดูแลสร้างความปลอดภัย ซึ่งรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ติดตามข้อมูลและพร้อมชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจในทิศทางที่ถูกต้อง รวมทั้งการขอความร่วมมือภาคประชาชน ภาคสังคมในการเป็นหูเป็นตา
แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ กำชับให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเป็นไปด้วยความรอบคอบโปร่งใสและตรวจสอบได้
.........................๑๘ กันยายน ๖๐

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ