ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทบทวนจาก กปส. เรื่องเกี่ยวข้องกับงานพระบรมศพ

ทบทวนจาก กปส. เรื่องเกี่ยวข้องกับงานพระบรมศพ
ครม.มีมติเห็นชอบ ดังนี้
1. ให้วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นวันหยุดราชการเพียงวันเดียว เนื่องจากในวันพุธที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันออกพระเมรุมาศก่อนวันถวายพระเพลิง และวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันต่อเนื่อง คณะกรรมการฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คณะกรรมการ รปภ.และ จร. คณะกรรมการจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศ และคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการ ได้วางแผนรองรับครอบคลุมในด้านต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัตินั้น เนื่องจากการปฏิบัติงานในพิธีช่วงก่อน และหลังวันที่ 26 ต.ค.60 เป็นการปฏิบัติราชการ จึงให้หน่วยงานเจ้าสังกัดพิจารณาผ่อนผัน หากจะต้องใช้เวลาราชการเพื่อการเดินทาง และเตรียมการตามสมควร
2. ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเดิมเคยมีประกาศกำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยขยายจากวันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค. 60 จนไปถึงวันศุกร์ที่ 27 ต.ค. 60 อันเป็นวันเก็บพระบรมอัฐิ รวมเวลา 15 วัน
3. ให้สถานที่ราชการ สถานศึกษา สถานที่ทำการของรัฐ ทั้งในและ ตท. ลดธงครึ่งเสา ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค.60 ถึงวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.60 รวมเวลา 15 วัน
4. ให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ออกทุกข์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ต.ค.60 เป็นต้นไป
5. ให้เริ่มเก็บผ้าระบาย ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ตามสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.60
6. ให้ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือและซักซ้อมทำความเข้าใจสถานบันเทิง และสถานีโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ งดหรือลดกิจกรรมบันเทิงในเดือน ต.ค.ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
7. ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจ งานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งประชาชนทั่วไปได้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วนั้น โดยที่ยังมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนเข้าใจว่าผู้มีคุณสมบัติที่สามารถสมัครจิตอาสาดังกล่าวจำกัดเฉพาะประชาชนทั่วไป จึงสมควรให้หัวหน้าส่วนราชการขอความร่วมมือข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มิได้รับมอบหมายภารกิจหน้าที่ให้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เข้าร่วมสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาฯ สนามเสือป่า หรือในต่างจังหวัด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ