ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯทรงเป็นประธานจัดงานหารายได้ เนื่องในวันมหิดล

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงรับเป็นประธานจัดงานหารายได้ เนื่องในวันมหิดล 24 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ทรงมีต่อวงการแพทย์และสาธารณสุขของไทย และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคล ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 คณะกรรมการจัดงานฯ จึงได้นำเสนอรูปแบบรายการ "ตามรอยสืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระบรมราชชนก" ซึ่งพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการตามรอยพระราชปณิธานสมเด็จพระบรมราชชนก ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ทั้งยังเพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่แพทย์และประชาชนทั่วไป ได้น้อมนำหลักคำสอนนี้มาใช้ในการดำเนินชีวิตที่ดีงาม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จนได้รับการยกย่องให้เป็น "เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์"
โอกาสนี้มีพระดำรัสถึงแรงบันดาลพระทัยในการทรงงาน แม้จะทรงมีพระกรณียกิจมากมายก็ยังทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดจนทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกลถึงอนาคตของวงการแพทย์ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้พระองค์ได้รับสั่งความตอนหนึ่งด้วยว่า" ทูลกระหม่อมพ่อ หรือ ในหลวงร.9ที่เขาเรียกกันนะค่ะ รับสั่งว่ามีความรู้มากมายที่เรียนมาแล้วทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ แล้วท่านก็บอกว่า พ่ออยากให้หนูเล็กมาทำงานที่ศิริราช นี่ก็เป็นแรงบันดาลใจทำให้พี่มาทำงานที่ศิริราช แล้วก็ต้องขอบอกว่าพี่จะไม่มีวันทิ้งศิริราชไปไหน จะอยู่ศิริราชจนทำงานไม่ไหว"

นอกจากนี้มีพระดำรัสเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมบริจาค กำลังทรัพย์ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาสของโรงพยาบาลศิริราช เนื่องในวันมหิดลและมีพระดำรัสพระราชทานกำลังใจแก่ผู้ที่กำลังโศกเศร้ากับช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากลำบากที่สุด จากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อจะช่วยให้ประชาชนคนไทยมีพลังและกำลังใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป
สำหรับรายการพิเศษวันมหิดล ถ่ายทอดสดจากหอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช ในวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2560 เวลา 22.30 - 00.30 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และถ่ายทอดสดผ่าน TNN 2 TRUE VISSION 784 ภายใต้ชื่อ "ศิริราชเพื่อประชาชน" กว่า 129 ปี ที่ศิริราชยังคงสืบสานพระราชปณิธาน ทำงานเพื่อแผ่นดิน รายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราช

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ