ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทะเลหมอกเขาเหลี่ยม‬ ตำบลกรุงชิง :นครศรีธรรมราช



        ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงการปลุกจิตสำนึกให้คนในพื้นที่รู้จัก รักษา และใช้ทรัพยากรของตนเองอย่างรู้คุณค่า และที่ ตำบลกรุงชิงนี้ ได้เกิดเหตุการณ์ ภัยพิบัติ น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย สถานที่ที่ เรากำลังจะพูดถึงนี้คือ จุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยม
        จุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยมตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านห้วยพาน หมู่ที่ ๒ ตำบลกรุงชิง อำเภอ นบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะมีหุบเขาล้อมรอบมีอุทยานแห่งชาติ ๒ แห่งคือ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง และอุทยานแห่งชาติเขานัน ซึ่งชุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยมตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขานัน 
        ลักษณะภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อนชื้นมีความอุดมสมบรูณ์ทางธรรมชาติ ทำให้มีหมอกปกคลุม และที่สำคัญต้นไม้ได้คลายก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซต์ออกมาทำให้เกิดหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี 
        จุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยมมีหมอกปกคลุมพื้นที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่มีหุบเขาสลับซับซ้อนมองเห็นวิวบรรยากาศถึง 280 องศา ความสูงวัดจากระดับน้ำทะเล 492 เมตร สามารถมองเห็นทะเลอ่าวไทยในยามกลางคืนซึ่งมีแสงไฟจากเรือโลดเล่นอย่างสวยงาม ยามเช้าจะได้เห็นแสงของพระอาทิตย์ส่องผ่านภูเขากระทบสายหมอกสวยงาม และชมพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าแสงสีทองสาดส่องอาบยอดเขา 

         ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะมีหมอกหนาเป็นพิเศษเพราะประเทศไทยได้รับอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนทำให้มีอุณหภูมิที่หนาวเย็น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและเก็บภาพอันประทับใจไว้เป็นที่ระลึก 
จากจุดพักรถเดินไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยมมีความลาดชัน 35 องศา ระยะทางประมาณ 162 เมตร รอบข้างทางมีพันธุ์ไม้และสมุนไพรนานาชนิดที่หาดูได้ยากเหมาะแก่การศึกษาเรียนรู้ ทั้งนี้กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทะเลหมอกเขาเหลี่ยมจัดตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประชาคมอาเซียนและนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและหลายๆประเทศ ซึ่งกลุ่มเยาวชน ประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ช่วยกันดูแลรักษาจุดชมวิวทะเลหมอกเขาเหลี่ยมก่อนที่ป่าไม้จะถูกบุกรุกทำลายกลายเป็นอื่น สร้างความตระหนักให้คนในชุมชนช่วยกันอนุรักษ์หวงแหนชุมชนของตนเอง


ขอบคุณข้อมูลจาก:
องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง
ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160 โทร 0-7575-2600

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ