ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระกลด เป็นแค่สัญลักษณ์ แต่ไม่ช่วยกันแดดกันฝน ท่านรักคนไทย เกรงใจคนไทยมาก

ท่านเกรงใจพสกนิกรมาก

ท่านรักคนไทย

 จากกรณีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 17.30 น.
เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระอุโบสถ


ทรงจุดธูปเทียนบูชาสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
แล้วเสด็จพระราชดำเนินประทักษิณอุโบสถพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้า ฝ่ายใน จำนวน 3 รอบ แล้วเสด็จขึ้นพระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม
พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระราชาคณะถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถ

โดยภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ บริเวณถนนหน้าพระลานตั้งแต่ประตูวิเศษไชยศรีถึงศาลหลักเมือง

เห็นในหลวง รัชกาลที่ ๑๐

ทรงเวียนเทียนวิสาขบูชา..กับพระธิดา

จู่ๆ ก็ลงจากรถพระที่นั่ง....ฝนตก

ทรงพระดำเนินตั้งแต่ถนนหน้าพระลาน จนถึงศาลหลักเมืองทรงเปียกแน่นอน...พระกลด

เป็นแค่สัญลักษณ์ แต่ไม่ช่วยกันแดดกันฝนได้สักเท่าไหร่ดอก

ยืนยันที่ฉันคิดเสมอมา...

พระเจ้าแผ่นดิน ทรงเกรงใจพสกนิกร เท่าที่พสกนิกรจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน...

พระบรมชนกของพระองค์ท่าน...มีพระราชภารกิจตั้งแต่สิบเก้าพรรษาจนถึงแปดสิบเก้าพรรษา...

วันนี้ รัชกาลที่สิบ ต้องทรงรับพระราชภาระต่อจากพระบรมชนก....ในวันที่บุคคลทั่วไป ข้าราชการ มีอายุที่ต้องเกษียณ ต้องพักแล้ว

แต่กลับต้องเป็นงานใหม่และงานใหญ่ สำหรับพระองค์ท่าน ที่ต้องรับราชภาระ มหามรดกแห่งชาติ

มานั่งคิดกันเถิด...ว่าจะทรงต้องเครียดขนาดไหน

ทรงเป็นรัชทายาทด้วย ทรงเป็นมนุษย์คนหนึ่งด้วย

ขอให้ช่วยกันให้กำลังพระทัยให้มาก

ฉันเชื่อว่า ท่านรักคนไทย เกรงใจคนไทยมาก

และด้วยความที่ท่านทรงเป็นทหาร มีวินัยสูงสุด

ท่านกำลังจะทำให้ดีที่สุด

ขอให้คนไทย ช่วยให้กำลังพระทัยท่านเถิดนะ

ขอบคุณข้อมูล : นิติพงษ์ ห่อนาค

ขอบคุณข้อมูล : T News

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ