ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อนุสนธิจากข้อเขียนสถานะเฟซบุคที่เขียนเล่าเรื่องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

หลังจากที่มีการแชร์ ข้อความจาก facebook ของพี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ที่ได้กล่าวถึงความเห็นของตนเอง ต่อ องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อคืนวันวิสาขบูชานั้น ได้มีสิ่งที่น่าปลาบปลื้มใจเกิดขึ้น ดังนี้
จากข้อความใน facebook นั้น ต่อมาได้มีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
เนื่องด้วยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และพระราชจริยาวัตร ที่งดงาม ในการทนุบำรุงพระพุทธศาสนา และความห่วงใยต่อพสกนิกรของพระองค์
โดยบรรยากาศภายหลัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่มาร่วมในงานพระราชพิธีวิสาขบูชา บริเวณถนนหน้าพระลาน บริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง โดยมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยเสด็จด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวล ทรงโน้มพระวรกาย และตรัสขอบคุณพสกนิกรที่มาร่วมพระราชพิธีและเฝ้าฯ รับเสด็จ ท่ามกลางสภาพอากาศฝนตกโปรยปรายเล็กน้อย ทำให้พสกนิกรต่างแสดงสีหน้าปลาบปลื้มใจ อิ่มเอิบหัวใจเป็นล้นพ้น
"อนุสนธิจากข้อเขียนสถานะเฟซบุคที่ฉันเขียนเล่าเรื่องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเสด็จทรงเวียนเทียนวันวิสาขบูชาและเสด็จพระราชดำเนินทรงทักทายประชาชนกลางสายฝน…
….ฉันไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการแบ่งปันไปกว้างขวางเพียงใด มีเพื่อนบางท่านส่งมาให้ดูว่ามีหลายเพจแบ่งปันไปให้คนไทยจำนวนมากได้อ่าน ได้ซาบซึ้งกับพระมหากรุณาธิคุณ….
….และที่ทำให้ฉันตกใจระคนปลาบปลื้มจนบรรยายความรู้สึกมิได้…นั่นคือ
…ข้อเขียนนั้น ถึงพระเนตรพระกรรณ…!
….สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้อ่านข้อเขียนนั้นด้วย…
เช้าวันนี้..ฉันได้รับโทรศัพท์จากข้าราชบริพารระดับสูง แจ้งให้ทราบว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งต่อทุกท่านที่ร่วมอ่านร่วมแบ่งปันร่วมถวายพระพรในเฟซบุค ดังข้อความต่อไปนี้ ( ท่านผู้ที่โทรมาบอกให้ฉันจดตาม ในขณะที่ฉันมือไม้สั่น ทำอะไรไม่ถูก )
“ทรงรู้สึกปลาบปลื้มในน้ำใจและความปรารถนาดีที่ท่านทั้งหลายได้แสดงต่อพระองค์ท่าน ทำให้พระองค์ท่านมีกำลังพระทัยที่จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับท่านทั้งหลายด้วยความสุขและเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติและประชาชน
ส่วนในโอกาสนี้ ทรงฝากคำขอบใจและพระราชทานกำลังใจมาสู่ทุกท่านในโอกาสนี้
อนึ่ง ได้ทรงรับสั่งเพิ่มเติมว่ามิได้เป็นการลำบากแต่ประการใดที่จะเสด็จพระราชดำเนินทรงทักทายประชาชนในโอกาสต่างๆ ตรงกันข้าม ทรงเกรงใจและห่วงใยที่ประชาชน ได้อดทนนั่งรอเฝ้าท่ามกลางสายฝนจริงๆ”
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพสกนิกรทางสังคมออนไลน์ และชาวไทยทุกผู้ทุกนามอย่างหาที่สุดมิได้
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้านายนิติพงษ์ ห่อนาค"







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ