ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความดีดี เลยอยากเอามาแบ่งปัน

อ่านเจอบทความดีดี เลยอยากเอามาแบ่งปันครับ
นักวิทยาศาสตร์ได้มีการทดลอง โดยนำขวดโหลใบหนึ่ง..จากนั้นใส่ “ตัวหมัด” เข้าไป.. ตัวหมัดกระโดดออกมาได้อย่างง่ายดาย..เขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผลก็ยังคงเป็นเช่นเดิม..และจากการทดลองก็พบว่า ระดับความสูงของหมัดกระโดดคิดเป็น 400 เท่าของขนาดลำตัวของมัน..เรียกได้ว่าเป็นแชมป์กระโดดสูงในโลกของสัตว์เลยก็ว่าได้
ต่อมา..นักวิทยาศาสตร์นำเอาหมัดใส่กลับลงไปในโหลแก้วอีก..แต่ครั้งนี้เขาเอาฝามาปิดปากโหลแก้วไว้..ทำเอาหมัดกระโดดชนฝาเสียงดังปังครั้งแล้วครั้งเล่า..มันรู้สึกงงมาก แต่ก็ไม่ยอมหยุดกระโดด...เพราะรูปแบบการดำเนินชีวิตของมันก็คือการ “กระโดด” หลังจากที่ชนแล้วชนอีก...มันก็เริ่มฉลาดขึ้น และเริ่มปรับความสูงของการกระโดดไปตามความสูงของฝาแก้ว..พอผ่านไปได้ครู่หนึ่ง นักวิทยาศาสตร์พบว่า..ตัวหมัดไม่ชนฝาแก้วอีก แต่กลับกระโดดอย่างอิสระในระดับที่ต่ำจากฝาลงไป
วันต่อมา..นักวิทยาศาสตร์นำเอาฝาขวดโหลออก...แต่หมัดก็ยังคงกระโดดด้วยความสูงเท่าเดิม..สามวันต่อมา..ก็ยังพบว่าหมัดยังคงกระโดดด้วยความสูงเท่าเดิม..หนึ่งสัปดาห์ต่อมา..หมัดที่น่าสงสารก็ยังคงกระโดดด้วยความสูงเท่าเดิมในขวดโหลใบนี้...มันไม่มีทางกระโดดออกจากแก้วใบนี้ได้อีกแล้ว!!!
ตัวหมัดมันกระโดดออกจากแก้วไม่ได้จริงๆ หรือ ?...คำตอบก็คือ.."ไม่ใช่"..แต่ที่มันไม่สามารถกระโดดได้สูงกว่านี้...ก็เพราะใจของมันยอมรับโดยปริยายแล้วว่า...ความสูงของขขวดโหลใบนี้..เป็นความสูงที่มันไม่มีวันกระโดดข้ามไปได้
การเรียนรู้ข้อผิดพลาดเป็นสิ่งดี..แต่จะดีกว่านั้น ต้องเรียนรู้เพื่อจะก้าวไปสู่สิ่งที่ดี..เพราะนั่นคือ..ความสำเร็จ
การสร้างข้อจำกัดให้กับตนเอง..ที่อาจจะมาจากเหตุผลต่างๆ หรือ ความล้มเหลวที่เคยเกิดขึ้น..ทำให้หลายคนไม่กล้าก้าวไปสู่อิสระเพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีงาม..
ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขาหามันไม่พบ..แต่เป็นเพราะจิตใจของพวกเขายอมรับ “ความสูง” ระดับหนึ่งไปโดยปริยาย..ซึ่งระดับความสูงนี้ได้แอบกระซิบจิตใต้สำนึกของพวกเขาว่า...“มันยากเกินไปแล้ว ฉันไม่มีวันทำได้สำเร็จ”
ซึ่งระดับความสูงในใจนี้เอง...ที่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมาก..ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายนั้นได้...และนี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า “การสร้างข้อจำกัดให้ตนเอง”..ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง มันอาจจะไม่มีข้อจำกัดนั้นอีกแล้วก็ได้...เหมือนกับฝาขวดโหลแก้วที่ได้ยกออกไปแล้วนั่นเอง
คุณกำลังสร้างข้อจำกัดให้กับตัวเองหรือเปล่า?
ส่งกำลังใจเป็น กองหนุน ให้มีพลังทำงานกันนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ