ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

A King’s funeral, and a chance to show the world the best of Thai culture โดยแดน บลาฮาสสกี้

มีบทความยาวๆมาให้อ่าน ถ้ามีเวลาว่าง ลองค่อยๆอ่านนะครับ ผมอ่านแล้วรู้สึกดีมาก อย่าให้อีกหลายๆคนได้อ่าน
บทแปลเป็นภาษาไทยอย่างละเอียด
A King’s funeral, and a chance to show the world the best of Thai culture โดยแดน บลาฮาสสกี้
แปลโดยคุณกลอยตา ณ ถลาง
......................................
เรารักความอลังการ – การแสดงออกในการเฉลิมฉลองหรือการไว้ทุกข์อย่างอลังการ ทำให้เราในฐานะมนุษย์สามารถเชื่อมโยงกับคนที่เรารักได้ลึกซึ้งขึ้น คนทั่วโลกชื่นชอบที่จะได้เห็นพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอาน่า เมื่อไม่นานมานี้ ชาวโลกก็ชื่นชมกับพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเคท มิดเดิลตัน
.
ประชากรประเทศเราร่วมกันไว้อาลัยกับการสูญเสียประธานาธิบดีจอห์น เคนเนดี้ผู้ยิ่งใหญ่ในปี พ. ศ. 2506 มีคนนับแสนชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบขาวเพื่อรอโอกาสที่จะเข้าไปอำลาประธานาธิบดีที่รักเป็นครั้งสุดท้าย คนทั้งประเทศร้องไห้ ประมุขแห่งรัฐและสมาชิกราชวงศ์จากทั่วโลกบินไปวอชิงตันเพื่อแสดงความเคารพ ค่าใช้จ่ายในครั้งนั้นทั้งหมดคิดเป็นเงินประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยังไม่ได้ปรับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งในตอนนั้นไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาอะไร และจริงๆ แล้วก็ไม่ควรจะเป็นประเด็นใดๆ ให้นำมากล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ
.
ไม่แปลกใจที่มีการใช้จ่ายอย่างเต็มที่เพื่อจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ลำดับที่เก้าในราชวงศ์จักรี ผู้ทรงครองราชย์เป็นเวลา 70 ปี ในระหว่างพระราชพิธีนี้ เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ในสองรูปแบบด้วยกัน รูปแบบแรกคือความยิ่งใหญ่อลังการของงานพระราชพิธี ส่วนความยิ่งใหญ่รูปแบบที่สองคือการที่คนไทยจำนวนมหาศาลเดินทางไปถวายความอาลัยแด่ “พ่อของคนไทยทุกคน” ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
.
พระราชพิธียิ่งใหญ่นี้เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้แสดงออกถึงความโศกเศร้าเสียใจของตน ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะสร้างมิตรภาพระหว่างกันและกัน มีโอกาสได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตนเองอย่างลึกซึ่งขึ้น เพื่อเผยให้โลกได้เห็นถึงความมหัศจรรย์
.
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ศิลปินหลายพันคนได้ตระเตรียมงานประติมากรรมและฝึกซ้อมศิลปการแสดงแบบไทยๆ ที่สวยงาม กวีไทยบางส่วน – รวมถึงภรรยาของผม – ทุ่มเทเวลาและพลังงานในการคิดหาถ้อยคำอันคัดกรองสมบูรณ์แบบเพื่อเขียนบทกวีที่เหมาะสมกับโอกาสนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไม่เพียงแต่จะแสดงความเสียใจของการจากไปของพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่พวกเขารู้จัก แต่เป็นโอกาสที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงความงดงามอลังการของวัฒนธรรม ผลงานศิลปะสาขาต่างๆ และศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย
.
การแสดงบนเวทีสามเวทีที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้ๆ กับพระบรมมหาราชวังแสดงให้โลกได้เห็นถึงศิลปะการแสดงอันทรงคุณค่าที่สุดของไทยซึ่งรวมถึงการแสดงโขน ซึ่งผมได้มีโอกาสได้ชมการถ่ายทอดสด นี่ไม่ใช่แค่งานศพเท่านั้น นี่คือการที่คนไทยได้บอกกับคนทั้งโลกว่า "นี่คือตัวตนของเรา"
.
แล้วค่าใช้จ่ายเล่า..
สื่อตะวันตกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบีบีซีได้วิพากษ์วิจารณ์ค่าใช้จ่ายโดยประมาณการไว้ที่ 90 ล้านเหรียญ อาจดูเหมือนจะฟุ่มเฟือยสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านมาชั่วชีวิต และนับถือพระองค์ว่าเปรียบเสมือนพ่อของคนไทยทั้งชาติคือสิ่งที่เหมาะสมและสมพระเกียรติอย่างยิ่ง ทำไมเราถึงชมพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ปรับเงินเฟ้อแล้ว 110 ล้านเหรียญ ก็เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ชุบชูจิตใจ และเราก็ปรารถนาให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และไดอาน่ามีความสุขในชีวิตสมรส บีบีซีไม่เห็นค่อนแคะเรื่องนี้แม้แต่น้อย สำหรับคนไทยแล้วพิธีกรรมแบบดั้งเดิมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการไว้อาลัยและให้เกียรติผู้ที่จากไป
.
ในฐานะปัจเจกชนและพลเมืองของประเทศ เราเองอยากได้และต้องการการเฉลิมฉลองเหล่านี้ แต่เรามักวิพากษ์วิจารณ์ประเทศอื่นๆ ที่ทำสิ่งเดียวกัน ขบวนรถในงานพระบรมศพของสมเด็จพระบรมราชินีฯ (พระมารดาของพระราชินีอลิซาเบธ ) เพียงอย่างเดียว ก็มีค่าใช้จ่าย111,000 ปอนด์ พิธีศพของ Winston Churchill ในปีพ. ศ. 2508 อันถือเป็นงานยิ่งใหญ่ มีผู้ร่วมงานกว่า 300,000 คนไปเคารพศพ ซึ่งอยู่ในโลงที่ปกคลุมด้วยธง Union Jack ในขณะที่ผู้คนนับล้านมารอแสดงความเคารพตลอดเส้นทาง พระราชินีอลิซาเบธทรงฉลอง 60 ปีแห่งการครองราชย์ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าเชื่อ ร่วมด้วยกองเรือ 1,000 ลำและเรือพระที่นั่งบนแม่น้ำเทมส์ โดยค่าใช้จ่ายของวันหยุดพิเศษแห่งชาติวันนี้เพียงวันเดียวก็สูงเกือบหนึ่งพันสองร้อยล้านปอนด์แล้ว
มองจากมุมมองเดียวกันแล้ว 90 ล้านเหรียญดูเหมือนจะไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไรไปเลย
.
แล้วเรื่องที่ว่าเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์เล่า
คำวิจารณ์ในสื่อตะวันตกแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชน เพราะมีการวางแผนประชาสัมพันธ์ เพื่อให้พระองค์ทรงได้รับความนิยม ซึ่งเป็นวิธีการในการสนับสนุนรัฐบาลทหาร นี่เป็นคำวิจารณ์ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ พระองค์ทรงเป็นที่นิยมชมชอบใช่ไหม ... แน่นอน... ทรงมีผู้ช่วยในการประชาสัมพันธ์ ไม่ต่างไปจากประมุขของทุกประเทศ กษัตริย์ทุกพระองค์ นักธุรกิจใหญ่ๆ ทุกคนและประธานาธิบดีทุกคน พระราชวงศ์อังกฤษมีคนทำประชาสัมพันธ์ให้ ประธานาธิบดีทรัมป์เองก็มี แต่วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การบอกว่า "ดูสิว่า ฉันเป็นคนดีขนาดไหน" เป้าหมายของการประชาสัมพันธ์คือการเพิ่มมูลค่าของงานที่ทำอยู่จริงๆ
.
ขอยกตัวอย่างหนึ่งให้เห็นชัดเจน พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้รักสัตว์ พระองค์ทรงนำสุนัขจรจัดซึ่งภายหลังทรงพระราชทานชื่อว่า "ทองแดง" มาเลี้ยง โดยปกติแล้ว ผู้ที่เป็นพระมหากษัตริย์สามารถจะมีสุนัขพันธุ์แท้กี่ตัวหรือกี่พันธุ์ก็ได้ แต่พระองค์ทรงอุปการะคุณทองแดง สุนัขจรจัดลักษณะดีมาเลี้ยงแทน การกระทำนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย และพระองค์ท่านทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเกี่ยวกับคุณทองแดงซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
.
มีการวางแผนประชาสัมพันธ์อยู่เบื้องหลังหรือไม่.. มีแน่นอน แต่จุดประสงค์ของการประชาสัมพันธ์นั้น ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อการเชิดชูพระมหากษัตริย์ – แต่ป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้คนในชาติ ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครมีปัญหาสุนัขจรจัดบนท้องถนน เมื่อประชาชนเห็นว่าพระมหากษัตริย์ทรงรับคุณทองแดงมาเลี้ยง ประชาชนคนของพระองค์ก็เริ่มนำสุนัขจรจัดมาเลี้ยงกันมากขึ้น เริ่มบริจาคเงินให้กับสถานเลี้ยงสัตว์จรจัด ทำให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาทางสังคมในเรื่องนี้และมีการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา
.
คนไทยนับถือพระองค์ท่านเป็นพระเจ้าหรือ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยอีกประการหนึ่งของสื่อตะวันตกคือคำกล่าวที่ว่าคนไทยนับถือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นเทพเจ้า การกล่าวว่าพระองค์ทรงเป็นที่นับถือในฐานะพระเจ้านั้นผิดจากความเป็นจริง และ "พระเจ้า" ในความเชื่อทางศาสนาพุทธมีความหมายแตกต่างจากคำนิยามของชาวคริสต์ สำหรับผู้นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศตะวันตก เมื่อเอ่ยถึง "พระเจ้า" ฟังดูน่าตกใจและดูเหมือนจะเป็นคำพูดเชิงลบ แต่ลองพิจารณาบริบททางพุทธศาสนาดีกว่า ในศาสนาคริสต์ "พระเจ้า" แยกออกจากมนุษยชาติโดยสิ้นเชิงและสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถใฝ่ฝันจะเป็นได้ ในขณะที่ในศาสนาพุทธนั้น แนวคิดเรื่อง "พระเจ้า" แตกต่างจากเรา เพราะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเราทุกคน และเป็นสิ่งที่เราสามารถเป็นได้หลังจากการเกิดหลายครั้งหลายหน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไม่ได้ทรงเป็น "พระเจ้า" ในความหมายของตะวันตก แต่ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นคนธรรมดาสามัญผู้บำเพ็ญบารมีธรรมจนจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ด้วยการที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนของพระองค์จนทรงได้รับการเคารพนับถือเช่นนั้น ไม่ใช่ ‘พระเจ้า’ แบบตะวันตกที่สื่อต่างประเทศมักตีความว่าเป็นเช่นนั้น
.
คำวิจารณ์เกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้นผิดที่ผิดทางและเกิดขึ้นจากข้อมูลผิดๆ ในความเป็นจริงแล้ว พระราชพิธีนี้เป็นพระราชพิธีที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติถวายแด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักของคนไทย และเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ชาวไทยต้องจัดขึ้น เพื่อที่จะก้าวต่อไปในชีวิต (หลังจากพระมหากษัติรย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งสวรรคตลง)
.
.
http://newsorg.org/…/a-kings-funeral-and-a-chance-to-show-…/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ