ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รัฐบาลแจงอย่าเชื่อข่าวลือปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลเข้ากรุงเทพฯ

รัฐบาลแจงอย่าเชื่อข่าวลือปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลเข้ากรุงเทพฯ ชี้เป็นข้อมูลเก่าปี 54 แนะประชาชนตรวจสอบข่าวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ป้องกันการบิดเบือน
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่า จะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองแสนแสบ เพื่อลงสู่แม่น้ำบางปะกง และจะทำให้น้ำท่วม กทม. ว่า
"เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยจากการตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ toptenthailand ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 54 จึงไม่ควรแชร์ส่งต่อกันจนเกิดความตื่นตระหนก ส่วนผู้ที่จงใจเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายได้"
ทั้งนี้ กรมชลประทานยืนยันว่าได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยปิดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.60 เป็นต้นมา และขณะนี้ยังปิดอยู่ นอกจากนี้ เขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำ ได้อีกร้อยละ 30 ของความจุ จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในช่วงนี้
ส่วนน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่จะควบคุมปริมาณน้ำ และผันน้ำเข้าสู่พื้นที่เก็บน้ำทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำช่วง จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นไม่เกิน 5 ซม.เท่านั้น
"สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม. หลายจุดในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้นั้น เกิดจากฝนที่ตกหนักอันเนื่องมาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่าน บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ หรือจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือตื่นตระหนกกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ