ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมเด็จพระเจ้าอยู่พระราชทาน ผ้าห่มกันหนาวให้ราษฎร จังหวัด กาฬสินธุ์

สมเด็จพระเจ้าอยู่พระราชทาน
ผ้าห่มกันหนาวให้ราษฎร จังหวัด
กาฬสินธุ์
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบหมายให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้แทนนำผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน มามอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาว ทั้ง 3 อำเภอ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอดอนจาน จำนวน 500 ผืน ที่วิทยาลัยการอาชีพห้วยผึ้ง อำเภอห้วยผึ้ง จำนวน 500 ผืน และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอนาคู จำนวน 500 ผืน รวมทั้งหมดจำนวน 1,500 ผืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนราษฎรที่กำลังประสบภัยหนาวในช่วงนี้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และจิตอาสาร่วมกันมอบผ้าห่มกันหนาว
ทั้งนี้จากสถานการณ์โลกขณะนี้ สาธารณภัยนับวันที่จะมีความรุนแรงขยายวงกว้างและทำลายชีวิตทรัพย์สินของประชากรอย่างมากมายมหาศาล ดังนั้นทุกคนต้องมีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้น ด้วยความมีสติ หยั่งคิด พร้อมทั้งร่วมกันพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำ ป่าไม้ ให้มีความอุดมสมบูรณ์​ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้จะลดความรุนแรงสาธารณภัยต่างๆให้ลดลงได้ ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง ได้แผ่ลงมาในประเทศจีนตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงทั่วไป และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทำให้อากาศหนาวเย็นเป็นเวลายาวนาน ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากความหนาวเย็นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทำให้การดำรงชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบไปด้วย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยทุกคน จึงได้พระราชทานผ้าห่มกันหนาวผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อยแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในเขตพื้นที่ อำเภอดอนจาน อำเภอห้วยผึ้ง และอำเภอนาคู จำนวน 1,500 ผืน เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งราษฎรที่ได้รับพระทานผ้าห่มกันหนาวทุกคน ต่างซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยราษฎรอย่างหาที่สุดมิได้
โดยล่าสุดวันนี้ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิพื้นราบต่ำสุดประมาณ 15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดภูอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 12 องศาเซลเซียส และมีหมอกปกคลุม ทำให้ประชาชนเริ่มป่วยเป็นโรคทางเดินระบบหายใจ และยังคงขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก
C r.หนังสือพิมพ์แนวหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ