ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทบ.จัดงานวันเด็กปีนี้ด้วยใจ หวังเติมพลังจิตอาสา สืบสานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ทบ.จัดงานวันเด็กปีนี้ด้วยใจ หวังเติมพลังจิตอาสา สืบสานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เชิญชวนน้องๆ ร่วมงาน ณ กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ สนามเป้า กทม. เวลา ๐๘ - ๑๖ น.
วันเด็กปีนี้ กองทัพบกขอเชิญน้องๆ มาสนุกสนานเปิดโลกทัศน์และเติมเต็มประสบการณ์ เรียนรู้ศาสตร์พระราชา กับกิจกรรมทางทหารที่กองทัพบก ได้เตรียมไว้อย่างเต็มที่ ภายใต้ ชื่องานว่า “กองทัพบก ปลูกจิตสำนึกเด็กไทย สร้างใจจิตอาสา สืบสานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” โดย ผู้บัญชาการทหารบกมอบหมายให้หน่วยทหารในส่วนกลางและภูมิภาค จัดกิจกรรมวันเด็กพร้อมกันในวันเสาร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๑ รวมทั้ง กองทัพบกจะสนับสนุนส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมวันเด็กของแต่ละพื้นที่ตามความเหมาะสมด้วย
สถานที่จัดงานวันเด็กของกองทัพบกในพื้นที่ กทม.ปีนี้ กำหนดจัด ณ กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ สนามเป้า กทม. (ติดกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕)ในวันเสาร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. โดยมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ในเรื่อง ศาสตร์พระราชา ความรักสามัคคี เสียสละ การมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ ได้แก่ การแสดงนิทรรศการ การจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และอากาศยานที่เข้าประจำการใหม่และที่มีการพัฒนาให้ทันสมัย ควบคู่ไปกับการแสดงบนเวที การจัดแสดงกิจกรรมกลางแจ้งให้น้องๆได้สนุกสนาน เสริมสร้างจินตนาการอย่างเต็มที่
น้องๆจะได้สัมผัสยุทโธปกรณ์หลากชนิด อาทิ เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอคเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง MI 17 , เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป EC145 , ปืนใหญ่, รถถัง VT4 , รถถัง Oplot , ยานเกราะล้อยาง BTR – 3E1 , รถหุ้มเกราะล้อยาง Reva , รถที่ใช้งานในสนามและงานช่าง , กิจกรรมสาธิตการตกแต่งบาดแผล ให้น้องๆได้รู้วิธีการปฐมพยาบาลและการดูแลบาดแผล, การฝึกเป็นผู้ประกาศข่าว และการตอบปัญหาบนเวที ส่วนการแสดงที่น้องๆ จะประทับใจอย่างแน่นอนคือ การแสดงสุนัขทหาร และร่วมในกิจกรรมการขี่ม้า มีของรางวัล บริการอาหาร ตรวจสุขภาพ และมีพี่ๆ ทหารคอยดูแลตลอดในทุกกิจกรรม
ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและส่วนภูมิภาค หน่วยทหารของกองทัพบกได้จัดกิจกรรมวันเด็กไปพร้อมกันด้วย อาทิ กองทัพภาคที่ ๒ จัดที่สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา, กองทัพภาคที่ ๓ จัดที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมือง และค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อ.วังทองจ.พิษณุโลก, กองทัพภาคที่ ๔ จัดที่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช, กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน เขตดุสิต , ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จัดที่ สนามกีฬาเอมพันธุ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดที่ สวนสัตว์ลพบุรี (การดำรงชีพในป่า และการแสดงงู) ,ศูนย์การทหารม้า จัดที่ลานรถถัง ในหน่วย จ.สระบุรี (วันศุกร์ ๑๒ มค.๖๑) เป็นต้น
วันเด็กแห่งชาติปีนี้ กองทัพบกขอเชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเติมความสุขกับกิจกรรมที่จัดขึ้นด้วยใจ ณ พื้นที่จัดงานส่วนกลาง คือที่ กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ กทม. หรือหน่วยทหารใกล้บ้าน เพื่อร่วมกันสร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคตต่อไป
.................
๗ มกราคม ๖๑

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ