กลุ่มดาววัว หรือ กลุ่มดาวพฤษภ () เป็นกลุ่มดาวในราศีที่ 2 เรียกันว่า กลุ่มดาววัวตัวผู้ ในกลุ่มดาวจักรราศี ปรากฏเด่นชัดในค่ำคืนฤดูหนาว อยู่ระหว่างกลุ่มดาวแกะทางทิศตะวันตก และกลุ่มดาวคนคู่ทางทิศตะวันออก ทางเหนือคือกลุ่มดาวเพอร์ซิอัสและกลุ่มดาวสารถี ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ คือ กลุ่มดาวนายพราน และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ คือ กลุ่มดาวแม่น้ำและกลุ่มดาวซีตัส
คนไทย โดยทั่วไปเห็นกลุ่มดาวนี้เป็น กลุ่มดาวธง สุนทรภู่เขียนชมดาวไว้ตอนหนึ่งวัน “ ดูโน่นแน่ะแม่อรุณรัศมี ตรงมือชี้ ดาวเต่า นั่นดาวไถ ดาวธงตรงหน้าอาชาไนย ดาวลูกไก่เคียงคู่เป็นหมู่กัน” ดาวธงของสุนทรภู่ คือ กลุ่มดาวหน้าวัวของกลุ่มดาววัวนั่นเอง วิธีการสังเกตดูกลุ่มดาวนี้ง่าย ๆ เพราะปรากฏอยู่เหนือศีรษะ ในท้องฟ้าประเทศไทย คือ ดูจากกลุ่มดาวลูกไก่ ซึ่งเป็นกระจุกดาวที่ สวยงานที่สุดในท้องฟ้า เป็นส่วนหนึ่ง ของราศีพฤษภ ด้วย กลุ่มดาวลูกไก่อยู่บนหนอกข้างขวาของวัว ฉะนั้นพอเห็น กลุ่มดาวลูกไก่ มองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นดาวธงรูปสามเหลี่ยมกลุ่มดาววัวจะปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือ ประกอบด้วยดาวฤกษ์ ประมาณ 9 ดวง ดาวที่เรียงกันเป็นรูปตัว วี ( V ) คนไทยเรียกดาวไม้ค้ำเกวียน หรือดาวธง มีดาวดาวฤกษ์สีส้ม ชื่อ อันเดบารัน (Aldebarm) อยู่ตรง ยอดธงเป็นเครื่องหมายแสดงตาขวาของราศีพฤษภ คนไทยเรียก มีดาวโรหิณี ความหมายว่า ผู้ติดตาม เพราะเป็นดาวที่ตามหลังดาวลูกไก่ ดาวที่เรียงกัน เป็นรูปหน้าวัว แต่ไม่รวมตาวัว เรียกว่า กระจุกดาวไฮแอดส์เป็นกระจุกดาวเปิด
อัลเดบารัน เป็นภาษาบาลิโลน คือ อิ-คู-ยู หรือดาวนำทางของดวงดาวต่างๆ
เบตา เตารี เป็นดาวคู่ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเขาวัวข้างซ้าย หรือเขาทางเหนือ ชื่อว่า “เอล นัธ “ คือการขวิด ครั้งหนึ่ง ปลายของเขาข้างขวา หรือเขาทางใต้ ของวัวเกิดจาก ดาวเซตา เตารี เอปซิลอน เตารี แสดงถึงตาซ้ายของวัว ดาวเปลย์อาเดสจะเป็นไหล่ของวัว
ชาวบาบิโลนให้ราศีพฤษภ เป็นสัญลักษณ์ในรูปของวัวสวรรค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้ทำให้เกิดพายุในขณะที่ชาวกรีกอ้างว่า เตารุส (Taurus :ทอรัส) คือวัวสีขาวที่ เทพซุส แปลงตนเองเป็นวัวสีขาว เพื่อเข้าหา ยูโรปา
กลุ่มดาววัวจะเห็นอยู่กลางท้องฟ้าตรงศีรษะ เมื่อเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 15 มกราคมของทุกปี
ตามนิยามดาวของกรีก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกลุ่มดาววัวดังนี้ จอมเทพจูปิเตอร์ ได้หลงรักเทพธิดายูโรปา (Europa) จูปิเตอร์หาทางจะเข้าอยู่ใกล้ๆพระนางยูโรปา โดยปลอมตัวเป็นวัวตัวผู้หนุ่มปะปนเข้าไปในฝูงวันของบิดาของยูโรปา วันหนึ่ง ขณะที่ยูโรปากำลังเก็บดอกไม้อยู่ในสวน วัวจูปีเตอร์ทำให้หิมะมาปกคลุมตัว จนเต็ม และเข้าไปใกล้ ๆ พระนางยูโรปาเหลือบมาเห็นเข้า ก็เกิดความสนใจ จึงเอามือปัดหิมะออกและได้ขึ้นไปนั่งบนหลังวันนั้น วัวจูปีเตอร์ได้ทีก็ออกวิ่งไป ทันที โดยมียูโรปาอยู่บนหลัง พาเหาะผ่านทะเมดิเตอร์เรเนียนไปยังผืนแผ่นดิน ใหญ่ ฉะนั้นผืนแผ่นดินแห่งนี้ ในปัจจุบันจึงเรียกว่าทวีปยุโรป จูปีเตอร์ได้แสดง ตัวกับพระนางยูโรปา ต่อมาก็ได้แต่งงานกับพระนางยูโรปาสมความตั้งใจ
บางตำนานก็เล่าว่า……
วันหนึ่งนางยูโรป้า เจ้าหญิงแห่งเมืองฟินิเชีย (Phoenician) ผู้มีความงามเป็นหนักหนา ออกไปเดินเล่นที่ทุ่งหญ้า ก็ได้เห็นวัวสีขาวรูปร่างกำยำงดงามเป็นที่สุดตัวหนึ่ง เจ้าวัวตัวนี้เชื่องสนิทและยังมีท่าทีเป็นมิตรผิดกับท่าทีที่น่าเกรงขามของมันนางก็เลยตายใจขึ้นเข้าไปลูบไล้และในที่สุดก็ขึ้นขี่หลังวัวตัวนั้นเมื่อนางขึ้นขี่หลังวัวตัวนั้นก็ออกไม่ยอมให้นางลงจากหลัง วิ่งผ่านน้ำข้ามทะเล โดยมียูโรปาอยู่บนหลัง พาเหาะผ่านทะเมดิเตอร์เรเนียนไปยังผืนแผ่นดิน ใหญ่ ผืนแผ่นดินแห่งนี้ ในปัจจุบันจึงเรียกว่าทวีปยุโรป ซึ่งจริง ๆ แล้ว วัวตัวนี้ก็คือซีอุสแปลงกายมา ด้วยว่าซีอุสเกิดหลงรักนางยูโรป้าจึงแปลงกายเป็นวัวมาลักพาตัวนาง และหลังจากนั้น นางยูโรป้าก็คลอดบุตรสามคนซึ่งได้แก่ มินอส (Minos) ลาดามันติส (Rhadamanthys) และซาร์เพดอน(Sarpedon) ซึ่งกลายเป็นผู้พิพากษาของโลกใต้พิภพซึ่งกลุ่มดาวราศีพฤษกก็คือรูปร่างของซีอุสเมื่อยามแปลงกายเป็นวัวที่ซีอุสทำไว้เป็นที่ระลึก และชื่อของทวีปยุโรป ก็ว่ากันว่าเอามาจากชื่อของนางยูโรป้านี่เอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น