อ่านโพสต์นี้แล้วโดนใจมาก
จริงๆตั้งใจแค่จะเก็บไว้เตือนตัวเอง
แต่คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายคน ในการดำเนินชีวิตครัย
จริงๆตั้งใจแค่จะเก็บไว้เตือนตัวเอง
แต่คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายคน ในการดำเนินชีวิตครัย
Cr.ครูนอตแห่งพงษ์พิทักษ์
ไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำผิดแล้วเจอทางออกที่ดี บางคนแม้จะลอยนวลกับความผิด ก็ต้องมาติดคุกในใจตัวเอง ทั้งๆ ที่ทางออกดีๆ มีให้เราเสมอ
--
0 สำนึก
ไม่นับเป็นข้อ 1 เพราะถือว่านี่เป็นพื้นฐานของการทำผิด และถ้าขาดการสำนึก ก็ไม่ต้องอ่านข้อต่อไป
1 ให้อภัยตัวเอง
เราไปร้องขอการให้อภัยจากคนอื่นไม่ได้ นั่นเป็นสิทธิ์ของเขา แต่จำไว้ว่า คนที่สำนึกผิด และคิดแก้ไข สมควรได้รับการให้อภัยเสมอ และเราคือคนที่ต้องให้อภัยตัวเองเป็นคนแรก เมื่อเราเมตตาตัวเอง เราจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
2 กล้าให้มากกว่ากลัว
ผลลัพธ์ของความผิดมันน่ากลัวเป็นเรื่องธรรมดาครับ จงกดความกลัวด้วยความกล้า กล้าทั้งๆที่กลัวนั่นแหละ แล้วเราจะพบว่าเรามีพลังมากพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
3 ขอโทษ
เราขอโทษเพื่อเขา ไม่ใช่เพื่อตัวเรา ขอโทษอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่มีคำว่า “แต่” ยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ จงเห็นใจเขาที่เขาเดือดร้อนเพราะความผิดพลาดของเรา
4 รับผิดชอบแก้ไข
เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้
แต่เราเปลี่ยนสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เรากำลังจะทำ แล้วเราจะพบว่าความผิดพลาดที่ตอนแรกไม่รู้จะจัดการอย่างไร มีหนทางแก้ไขที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นเสมอ
5 อย่าประมาททำผิดซ้ำรอยเดิม
ขอบคุณบทเรียนที่เกิดขึ้น มันสอนให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เราได้เรียนรู้ความผิดพลาดเพิ่มอีกอย่างในชีวิต แต่อย่าประมาทใจตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพื่อรับมือกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
-------ข้อห้าม-------
1 อย่าโทษคนอื่น
เราเลือกที่จะไปยืนหายใจในบทบาทคนผิดด้วยตัวเอง อย่างอื่นเป็นแค่ปัจจัยหนุน อย่ามีเหตุผลที่ผู้คนเรียกว่าข้ออ้าง มาทำให้ตนแย่ลงไปอีก
2 อย่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อให้เราสำนึกแล้ว รับผิดชอบแล้ว อย่างน้อยควรมีคำอธิบายหรือคำขอโทษ การที่เราตีมึนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แค่เราอ่อนแอเกินกว่าจะเผชิญความจริง
3 อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
การช่างมันกับความผิดพลาดโดยไม่เร่งแก้ไข คือบัญชีสะสมปมปัญหา มันจะยิ่งพอกพูนด้วยดอกเบี้ยในอัตราที่เราคาดไม่ถึง
4 อย่าโกหก
สิ่งนี้คือการลดคุณค่าในตัวเองที่ร้ายแรงที่สุดครับ ไม่สำคัญว่าคนฟังจะเชื่อเราไหม หรือเราจะพ้นผิดไหม เราจะร้อนจากข้างในไปพร้อมกับเรื่องที่เราแต่งขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด
5 อย่าคิดที่จะทำยังไงให้พ้นผิด แทนที่จะคิดจะรับผิดชอบแก้ไข เพราะการคิดทำให้ตัวเองพ้นผิด เราจะยิ่งผูกปมเพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจากการพยายามแก้ไข ที่เป็นการคลายปม
---
เพราะคำพูดบางคำ เปลี่ยนชีวิตบางคน
---
ตั้งใจได้สำรวจและมีเครื่องมือเมื่อ “ตัวเรา” ทำผิดพลาด มันจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเรามัวไปนึกถึงความผิดของคนอื่น เราอาจปรารถนาดีแนะนำคนอื่นได้...ถ้าเขาอยากฟัง เริ่มสำรวจที่ตัวเรา
ไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำผิดแล้วเจอทางออกที่ดี บางคนแม้จะลอยนวลกับความผิด ก็ต้องมาติดคุกในใจตัวเอง ทั้งๆ ที่ทางออกดีๆ มีให้เราเสมอ
--
0 สำนึก
ไม่นับเป็นข้อ 1 เพราะถือว่านี่เป็นพื้นฐานของการทำผิด และถ้าขาดการสำนึก ก็ไม่ต้องอ่านข้อต่อไป
1 ให้อภัยตัวเอง
เราไปร้องขอการให้อภัยจากคนอื่นไม่ได้ นั่นเป็นสิทธิ์ของเขา แต่จำไว้ว่า คนที่สำนึกผิด และคิดแก้ไข สมควรได้รับการให้อภัยเสมอ และเราคือคนที่ต้องให้อภัยตัวเองเป็นคนแรก เมื่อเราเมตตาตัวเอง เราจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
2 กล้าให้มากกว่ากลัว
ผลลัพธ์ของความผิดมันน่ากลัวเป็นเรื่องธรรมดาครับ จงกดความกลัวด้วยความกล้า กล้าทั้งๆที่กลัวนั่นแหละ แล้วเราจะพบว่าเรามีพลังมากพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
3 ขอโทษ
เราขอโทษเพื่อเขา ไม่ใช่เพื่อตัวเรา ขอโทษอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่มีคำว่า “แต่” ยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ จงเห็นใจเขาที่เขาเดือดร้อนเพราะความผิดพลาดของเรา
4 รับผิดชอบแก้ไข
เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้
แต่เราเปลี่ยนสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เรากำลังจะทำ แล้วเราจะพบว่าความผิดพลาดที่ตอนแรกไม่รู้จะจัดการอย่างไร มีหนทางแก้ไขที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นเสมอ
5 อย่าประมาททำผิดซ้ำรอยเดิม
ขอบคุณบทเรียนที่เกิดขึ้น มันสอนให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เราได้เรียนรู้ความผิดพลาดเพิ่มอีกอย่างในชีวิต แต่อย่าประมาทใจตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพื่อรับมือกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
-------ข้อห้าม-------
1 อย่าโทษคนอื่น
เราเลือกที่จะไปยืนหายใจในบทบาทคนผิดด้วยตัวเอง อย่างอื่นเป็นแค่ปัจจัยหนุน อย่ามีเหตุผลที่ผู้คนเรียกว่าข้ออ้าง มาทำให้ตนแย่ลงไปอีก
2 อย่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อให้เราสำนึกแล้ว รับผิดชอบแล้ว อย่างน้อยควรมีคำอธิบายหรือคำขอโทษ การที่เราตีมึนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แค่เราอ่อนแอเกินกว่าจะเผชิญความจริง
3 อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
การช่างมันกับความผิดพลาดโดยไม่เร่งแก้ไข คือบัญชีสะสมปมปัญหา มันจะยิ่งพอกพูนด้วยดอกเบี้ยในอัตราที่เราคาดไม่ถึง
4 อย่าโกหก
สิ่งนี้คือการลดคุณค่าในตัวเองที่ร้ายแรงที่สุดครับ ไม่สำคัญว่าคนฟังจะเชื่อเราไหม หรือเราจะพ้นผิดไหม เราจะร้อนจากข้างในไปพร้อมกับเรื่องที่เราแต่งขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด
5 อย่าคิดที่จะทำยังไงให้พ้นผิด แทนที่จะคิดจะรับผิดชอบแก้ไข เพราะการคิดทำให้ตัวเองพ้นผิด เราจะยิ่งผูกปมเพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจากการพยายามแก้ไข ที่เป็นการคลายปม
---
เพราะคำพูดบางคำ เปลี่ยนชีวิตบางคน
---
ตั้งใจได้สำรวจและมีเครื่องมือเมื่อ “ตัวเรา” ทำผิดพลาด มันจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเรามัวไปนึกถึงความผิดของคนอื่น เราอาจปรารถนาดีแนะนำคนอื่นได้...ถ้าเขาอยากฟัง เริ่มสำรวจที่ตัวเรา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น