เรื่องราวแห่งความประทับใจ
ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
มีเรื่องดีดี มาฝากกันครับ
เช้าวันหยุดนี้ ยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้งนะครับ
ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
มีเรื่องดีดี มาฝากกันครับ
เช้าวันหยุดนี้ ยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้งนะครับ
Cr. เพื่อนๆที่ส่งมาให้อ่านครับ
พล.ต.อ.วศิษฐ์ เดชกุลชร
ดึกสงัด ก่อนเช้าวันพระราชพิธีฯ วันที่ 26 ตุลาคม ขณะที่ผมเดินอยู่บนถนน บริเวณที่ไกลจากสนามหลวงพอสมควร ถนนค่อนข้างเงียบ มีผู้คนกำลังเดินมุ่งหน้าไปในทางเดียวกันบ้าง ประปราย บางช่วงนั้นเงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าตัวเอง
บ้านเล็กๆริมทาง ตั้งโต๊ะหน้าบ้าน มองดูคล้ายกำลังรอจะใส่บาตร ผมเดินใกล้เข้าไป มองเห็นหม้อขนาดเดียวกับที่แม่ทำแกงที่บ้าน ขนาดไม่ใหญ่ มีควันขึ้นกรุ่นๆ คุณพี่ผู้หญิงกำลังวางถ้วยโฟมลงบนโต๊ะ เงยหน้ามาสบตาผม เอ่ยชักชวนว่า “ข้าวต้มร้อนๆเลยค่ะ หยิบเลยนะคะ รองท้องก่อนนะ” ผมไม่ได้ตั้งใจจะแวะ เลยได้แค่กล่าวขอบคุณและเดินผ่านไป
ผ่านมุมถนน กลุ่มนักศึกษาหน้าตาสดใส ยืนถือถาดใส่ถ้วยกระดาษสีขาว ร้องบอกคนที่เดินผ่านไปมา “กาแฟร้อนๆค่า หยิบได้เลยนะคะ” พวกเธอรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวผม ผมยิ้มตอบ
กำลังเดินอยู่ ก็มีพี่มอเตอร์ไซค์วิน ขับรถมาใกล้ๆ ถามผมว่า “ไปไหนครับพี่ ส่งฟรีจิตอาสาครับ” ผมไม่อยากรบกวนพี่เขา เพราะประมาณว่าเดินไหว และน่าจะมีคนที่ต้องการมากกว่าผม ก็เลยยิ้มขอบคุณพี่เขาไป
แล้วผมก็เห็นหญิงชราสองคน ผมสีขาวไปทั้งหัว นั่งอยู่บนพื้น แต่งชุดดำแบบชาวบ้านๆ ด้านหน้าวางถาดตะกร้าสานสีซีดๆ มีห่อใบตองอยู่ในนั้นสามสี่ห่อ
ผมหยุดเดิน ย่อตัวลงดูสิ่งที่คุณยายสองคนนั้นกำลังทำ เธอเปิดกระติ๊บข้าวเหนียว หยิบข้าวเหนียวกำมือนึงใส่ลงในใบตองที่ตัดเตรียมมา แล้วคุณยายอีกคนก็หยิบเอาหมูฝอยจากถุงพลาสติค มาวางลงบนข้าวเหนียว บรรจงห่อ แล้วก็วางลงบนถาดตระกร้าสานข้างหน้า มือไม้สั่นด้วยความชรา
“หยิบเลยลูก” เธอชี้ชวนผม คราวนี้ผมทำตามอย่างว่าง่าย
ยายมาจากไหน มากันยังไง มานานรึยัง คำถามมากมายที่ผมถามออกไป ขณะที่มือกำเอาห่อใบตองเอาไว้
ยายมาจากโคราช มาถึงเมื่อคืน เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด มาหมดแรงเอาตรงนี้ เลยยึดเอาริมทางเท้านั่งพัก เห็นคนเริ่มเดินผ่านไป เลยเอาของที่เตรียมมาแบ่งคนอื่นๆ มาเริ่มห่อเริ่มแจก เพราะไม่รู้จะเดินต่อไปไหวไหม แจกตรงนี้เลยดีกว่า แกว่าอย่างนั้น
ผมยกมือไหว้ขอบพระคุณแก แล้วก็ลุกขึ้นเดินต่อไป ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ยิ่งเดินไปๆ หันหน้ามองไปทางไหน ก็เห็นใครต่อใครพากันทำอะไรสักอย่างเพื่อคนอื่นๆ แจกอาหาร เครื่องดื่ม ขนม พัด ยาดม ลูกอม ผ้าเย็น หรืออย่างน้อยๆก็แค่ถือถุงพลาสติคใบใหญ่ เพื่อรอให้ทิ้งขยะ
ผมเดินไป ผมแกะห่อใบตองออก กัดข้าวเหนียวในห่อ มันอร่อยมาก ... แต่ผมกัดคำที่สองไม่ลง น้ำตาผมไหลอาบหน้าไปหมด
พระองค์คงต้องชื่นใจ ที่ได้รู้ว่า พวกเรารักพระองค์เหลือเกิน ผมนึกถึงรอยยิ้มของพระองค์แล้วก็น้ำตาไหล นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เราแสดงความรักและห่วงใยต่อกันมากที่สุด เท่าที่ผมเคยประสบมาในช่วงชีวิตนี้
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงามจริงๆ แม้จะอบอวลไปด้วยความเศร้าโศกก็ตาม
#ฉันคิดถึงพระราชาของฉัน
พล.ต.อ.วศิษฐ์ เดชกุลชร
ดึกสงัด ก่อนเช้าวันพระราชพิธีฯ วันที่ 26 ตุลาคม ขณะที่ผมเดินอยู่บนถนน บริเวณที่ไกลจากสนามหลวงพอสมควร ถนนค่อนข้างเงียบ มีผู้คนกำลังเดินมุ่งหน้าไปในทางเดียวกันบ้าง ประปราย บางช่วงนั้นเงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าตัวเอง
บ้านเล็กๆริมทาง ตั้งโต๊ะหน้าบ้าน มองดูคล้ายกำลังรอจะใส่บาตร ผมเดินใกล้เข้าไป มองเห็นหม้อขนาดเดียวกับที่แม่ทำแกงที่บ้าน ขนาดไม่ใหญ่ มีควันขึ้นกรุ่นๆ คุณพี่ผู้หญิงกำลังวางถ้วยโฟมลงบนโต๊ะ เงยหน้ามาสบตาผม เอ่ยชักชวนว่า “ข้าวต้มร้อนๆเลยค่ะ หยิบเลยนะคะ รองท้องก่อนนะ” ผมไม่ได้ตั้งใจจะแวะ เลยได้แค่กล่าวขอบคุณและเดินผ่านไป
ผ่านมุมถนน กลุ่มนักศึกษาหน้าตาสดใส ยืนถือถาดใส่ถ้วยกระดาษสีขาว ร้องบอกคนที่เดินผ่านไปมา “กาแฟร้อนๆค่า หยิบได้เลยนะคะ” พวกเธอรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวผม ผมยิ้มตอบ
กำลังเดินอยู่ ก็มีพี่มอเตอร์ไซค์วิน ขับรถมาใกล้ๆ ถามผมว่า “ไปไหนครับพี่ ส่งฟรีจิตอาสาครับ” ผมไม่อยากรบกวนพี่เขา เพราะประมาณว่าเดินไหว และน่าจะมีคนที่ต้องการมากกว่าผม ก็เลยยิ้มขอบคุณพี่เขาไป
แล้วผมก็เห็นหญิงชราสองคน ผมสีขาวไปทั้งหัว นั่งอยู่บนพื้น แต่งชุดดำแบบชาวบ้านๆ ด้านหน้าวางถาดตะกร้าสานสีซีดๆ มีห่อใบตองอยู่ในนั้นสามสี่ห่อ
ผมหยุดเดิน ย่อตัวลงดูสิ่งที่คุณยายสองคนนั้นกำลังทำ เธอเปิดกระติ๊บข้าวเหนียว หยิบข้าวเหนียวกำมือนึงใส่ลงในใบตองที่ตัดเตรียมมา แล้วคุณยายอีกคนก็หยิบเอาหมูฝอยจากถุงพลาสติค มาวางลงบนข้าวเหนียว บรรจงห่อ แล้วก็วางลงบนถาดตระกร้าสานข้างหน้า มือไม้สั่นด้วยความชรา
“หยิบเลยลูก” เธอชี้ชวนผม คราวนี้ผมทำตามอย่างว่าง่าย
ยายมาจากไหน มากันยังไง มานานรึยัง คำถามมากมายที่ผมถามออกไป ขณะที่มือกำเอาห่อใบตองเอาไว้
ยายมาจากโคราช มาถึงเมื่อคืน เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด มาหมดแรงเอาตรงนี้ เลยยึดเอาริมทางเท้านั่งพัก เห็นคนเริ่มเดินผ่านไป เลยเอาของที่เตรียมมาแบ่งคนอื่นๆ มาเริ่มห่อเริ่มแจก เพราะไม่รู้จะเดินต่อไปไหวไหม แจกตรงนี้เลยดีกว่า แกว่าอย่างนั้น
ผมยกมือไหว้ขอบพระคุณแก แล้วก็ลุกขึ้นเดินต่อไป ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ยิ่งเดินไปๆ หันหน้ามองไปทางไหน ก็เห็นใครต่อใครพากันทำอะไรสักอย่างเพื่อคนอื่นๆ แจกอาหาร เครื่องดื่ม ขนม พัด ยาดม ลูกอม ผ้าเย็น หรืออย่างน้อยๆก็แค่ถือถุงพลาสติคใบใหญ่ เพื่อรอให้ทิ้งขยะ
ผมเดินไป ผมแกะห่อใบตองออก กัดข้าวเหนียวในห่อ มันอร่อยมาก ... แต่ผมกัดคำที่สองไม่ลง น้ำตาผมไหลอาบหน้าไปหมด
พระองค์คงต้องชื่นใจ ที่ได้รู้ว่า พวกเรารักพระองค์เหลือเกิน ผมนึกถึงรอยยิ้มของพระองค์แล้วก็น้ำตาไหล นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เราแสดงความรักและห่วงใยต่อกันมากที่สุด เท่าที่ผมเคยประสบมาในช่วงชีวิตนี้
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงามจริงๆ แม้จะอบอวลไปด้วยความเศร้าโศกก็ตาม
#ฉันคิดถึงพระราชาของฉัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น