พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ
พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ อยู่ที่บ้านป่าหวาย ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ในพื้นที่ กรมรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์
การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กองทัพบกเริ่มแรกได้จัดตั้งกองพันทหารพลร่มขึ้นเป็นครั้งแรกที่ บ้านป่าหวาย ตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เมื่อ พ.ศ.2497 และได้มีวิวัฒนาการมาเป็นหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษในปัจจุบัน ทั้งนี้หน่วยรบพิเศษเป็นหน่วยทหารที่มีความสำคัญยิ่งหน่วยหนึ่งของกองทัพบกไทยมาทุกยุคทุกสมัย นายทหารหลายท่านที่มาจากหน่วยทหารรบพิเศษได้รับตำแหน่งระดับเป็นผู้นำในกองทัพ ได้แก่ พลเอกสุรยุทธ จุลลานนท์ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ พลเอกวิมล วงศ์วานิช ในปี พ.ศ.2537 พลเอกวิมล วงศ์วานิช ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของทหารรบพิเศษ จึงได้อนุมัติให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษขึ้น ตั้งอยู่ที่ค่ายวชิราลงกรณ์ ใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 28 ล้านบาท แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2538 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ทางทหาร และวีรกรรมของทหารรบพิเศษที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชของชาติ
เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติทหารรบพิเศษให้อนุชนรุ่นหลังได้ยึดถือเป็นแบบอย่างของความเสียสละต่อไป
การจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ แบ่งเป็นห้องต่าง ๆ ดังนี้
ห้องโถง จัดแสดงภาพเหตุการณ์ประวัติความเป็นมาภารกิจต่างๆ ของหน่วยรบพิเศษตั้งแต่ยุคต้นจนถึงยุคปัจจุบัน ภายในยังภาพประติมากรรมฝาผนังดินเผาด่านเกวียนนูนต่ำ เป็นประติมากรรมรูปช้างสามเศียร “เทพเจ้าเอราวัณ” ภายในเศียรช้างบรรจุวัตถุมงคลรุ่นอนุรักษ์ชาติและบรรจุดินจาก 24 สมรภูมิการรบของไทย และประดิษฐานพระบรมรูป 9 มหาราชของชาติไทย
ห้องแสดงที่ 1 (ห้องแสดงทั่วไป) จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและการวิวัฒนาการของหน่วยรบพิเศษ โดยแบ่งเป็นตู้แสดง ต่างๆดังนี้
ตู้จัดแสดงส่วนแรก จัดแสดงภาพของนายทหารที่เรียกว่า “เกียรติยศอันสูงสุดของทหารหน่วยรบพิเศษ” ได้แก่ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ และพลเอกวิมล วงษ์วานิช ที่ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ถัดมาเป็นตู้จัดแสดงเครื่องแบบของทหารจากหน่วยรบพิเศษซึ่งมีทั้งชุดภาคพื้นดินที่เป็นชุดพรางและชุดสีดำ ชุดกระโดดร่ม ชุดประดาน้ำ ชุดแต่งกายเครื่องแบบทหารธรรมดาทั้งทหารหญิงและชาย ด้านหลังของตู้จัดแสดง มีผังการจัดหน่วยรบพิเศษให้ได้ความรู้ด้วย
ตู้จัดแสดงถัดมานำเสนอเครื่องแต่งกายของหน่วยรบพิเศษที่ต้องกระโดดร่มลงในพื้นที่อันตรายต่างๆ ด้านหลังเป็นร่มจริง ส่วนด้านหน้าเป็นร่มสำรองหากร่มจริงไม่กาง มีชุดร่มของพลเอกวิมล วงษ์วานิช
ตู้จัดแสดงถัดมาเป็นตู้จัดแสดงหมวกทรงอ่อน หรือเรียกว่าหมวกเบเลย์(Beret) สีแดงของหน่วยทหารรบพิเศษ ส่วนใหญ่แล้วหน่วยรบพิเศษทั่วโลกจะใช้หมวกเบเลย์สีแดง มีเฉพาะบางประเทศที่ใช้สีอื่น นอกจากแสดงหมวกแล้วยังแสดงเข็มสัญลักษณ์ร่วมและสายรัดจากทั่วโลก ส่วนใหญ่ได้มาจากการซ้อมรบร่วมหรือการเยือนระหว่างหน่วยทหารของแต่ละประเทศ
ตู้จัดแสดงโหลแก้วบรรจุดินจากสมรภูรบทั้ง 24 แห่ง ที่ทหารหน่วยรบพิเศษเคยร่วมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันด้วย ส่วนอื่นๆ ภายในห้องประกอบด้วย
ตู้จัดแสดงการแต่งกายในโอกาสต่างๆ การประดับเครื่องหมายและเครื่องราชอสริยายศต่างๆ ทั้งปกติขาว และปกติครึ่งท่อน รวมทั้งจัดแสดงอาวุธปืนประเภทต่างๆของทหารรบพิเศษด้วย
ห้องแสดงที่ 2 เป็นห้องจัดแสดงที่เกี่ยวกับการฝึกและการศึกษาของหน่วยรบพิเศษ โดยการจำลองหลักสูตรต่างๆ ที่ทหารรบพิเศษจะต้องเข้ารับการฝีกศึกษา ในโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ(รร.สพศ.ศสพ.) เช่นจำลองสถานที่ฝึกศึกษาหลักสูตรทางอากาศ แสดงอุปกรณ์การฝึก จำลองการฝึกหลักสูตรจู่โจมภาคที่ตั้ง, ภาคป่า, ภาคทะเล,การข้ามเครื่องกีดขวาง และการไต่หน้าผาจำลอง เป็นต้น และจัดแสดงอาวุธที่ทหารรบพิเศษต้องนำไปด้วยเวลาออกรบหรือออกปฏิบัติภารกิจ
ห้องแสดงที่ 3 เป็นห้องจัดแสดงการปฏิบัติการรบในยุทธการต่างๆ โดยแบ่งยุคการจัดแสดงเป็น 4 ยุคได้แก่ ยุคโบราณ, ยุคก่อนเสียงปืนแตก, ยุคต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์เช่น ยุทธการช่องช้าง ยุทธการเขาค้อ ฯลฯ, ยุคหลังปี พ.ศ.2525 เป็นการปฏิบัติการป้องกันประเทศเป็นการจำลองภาพเหตุการณ์ที่ ทหารรบพิเศษได้ร่วมในการสู้รบในยุทธการต่างๆ เพื่อให้ทหารและอนุชนรุ่นหลังได้รับทราบและเป็นข้อเตือนใจ
ห้องแสดงที่ 4 เป็นห้องจัดแสดงกิจกรรมที่สำคัญของหน่วยรบพิเศษประกอบด้วย แสดงกิจกรรมสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งโครงการพระราชดำริที่หน่วยรบพิเศษมีส่วนร่วม ประวัติเมืองลพบุรี ตลอดจนกิจกรรมที่หน่วยรบพิเศษได้มีส่วนร่วมดำเนินการมาในอดีตถึงปัจจุบัน
ห้องปฏิบัติการใต้น้ำ จัดแสดงจำลองภาพเหตุการณ์ให้เห็น ถึงขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษใต้น้ำ ของกองทัพไทย ด้วยการซุ่มโจมตีด้วยวิธีการวางตัวใต้ผิวน้ำ ซึ่งผู้ปฏิบัติต้องได้รับการฝึกเป็นพิเศษ มีขีดความสามารถสูง มีความเข้มแข็ง อดทนทั้งร่างกายและจิตใจ และมีความเสียสละเป็นอย่างสูง ซึ่งหน่วยรบพิเศษ จะต้องริเริ่มพัฒนาการฝึกปฏิบัติการพิเศษในลักษณะต่างๆ ให้กับกำลังพลอย่างต่อเนื่อง และมีหุ่นจำลองของทหารรบพิเศษที่แต่งกายเตรียมพร้อมทั้งการดำน้ำและการขึ้นปฏิบัติการบนบก
ห้องปฏิบัติการใต้ดิน จำลองภาพเหตุการณ์และแผนการทำลายล้างในรูปแบบการปฏิบัติการใต้ดิน เพื่อให้กำลังพลได้ตระหนักถึงอันตรายที่ซ่อนเร้นแฝงตัวในรูปแบบต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งจากความริเริ่มของฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายเรา
ห้องปฏิบัติการรบในป่า จัดแสดงจำลองภาพเหตุการณ์การรบจริงที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานับประการ เช่นกับระเบิด ระเบิดแสวงเครื่อง หลุมขวาก และแสดงให้เห็นถึงการตระเวนและความเป็นอยู่ในป่า เพื่อเป็นข้อเตือนใจและระลึกถึงกำลังพลในอดีต ที่มีทั้งการสูญเสียและได้รับชัยชนะและต้องประสบกับการสูญเสีย
อีกห้องจัดแสดงที่เพิ่งทำเสร็จมาเมื่อไม่กี่ปีนี้คือ ห้องจัดแสดงภารกิจในสมรภูมิต่างๆ ของทหารหน่วยรบพิเศษ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอพัฒนาการของหน่วยรบพิเศษ แบ่งเป็น รบพิเศษในสงครามยุคโบราณ เล่าย้อนหลังไปถึงยุคสมัยของพระนเรศวร และต่อมากล่าวถึงหน่วยรบพิเศษอีกหน่วยที่มีบทบาทต่ออธิปไตยของประเทศไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คือ หน่วยเสรีไทย ต่อมานำเสนอการสู้รบในสมัยที่ประเทศไทยยังมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) มีการจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งการบัญชาการใต้ดิน การจำลองกระท่อมของ ผกค. ร่วมทั้งหนังสือ เสื้อผ้าอาวุธต่างๆ ที่ยึดได้จากการบุกปราบปรามของหน่วยรบพิเศษในช่วง ทศวรรษที่ 2510-2530 และมีแผนที่จัดแสดงสมรภูมิรบ หรือเขตพื้นที่สีแดง ในบริเวณต่างๆของประเทศไทย
นอกจากนี้หน่วยทหารรบพิเศษยังมีหน้าที่ในการปราบปรามกลุ่มพ่อค้ายาเสพติด ที่อยู่ตามตะเข็บชายแดนของประเทศไทย ล่าสุดภารกิจพิเศษของหน่วยรบพิเศษที่ร่วมมือไปกับนานาชาติคือ ภารกิจเพื่อสันติภาพ ด้วยการส่งหน่วยทหารเข้าไปร่วมพัฒนาประเทศติมอร์ ที่เพิ่งสงบจากการสงครามกลางเมือง และหน่วยทหารไทยที่ไปร่วมรักษาสันติภาพที่ประเทศอิรัก นอกจากแสดงภาพการปฏิบัติภารกิจและยังนำเสนอเครื่องแบบในภารกิจพิเศษเหล่านี้ด้วย
การจัดแสดงทั้งหมดนั้นเพื่อให้ผู้ที่ได้เข้าชมได้เข้าใจถึงภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบของทหารหน่วยรบพิเศษ ให้เข้าในคำขวัญของหน่วยที่ว่า “พลังเงียบ เฉียบขาด”
การเข้าชมเปิดในวันราชการ เวลา 09.00-16.00 น. (การเยี่ยมชมเป็นคณะ กรุณาติดต่อล่วงหน้า) โทร.036-612395 อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท
- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6197#sthash.UaUnKNCS.dpuf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น