ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราฎร์ธานี


ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่ท่ามกลางสายน้ำของเขื่อนเชียวหลาน  บรรยากาศสวยงามจนได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน ภาพภูเขารายล้อมเขื่อน นอนแพพายเรือคายัคและกิจกรรมต่างๆ


CPS_0069

ซึ่งอาจจะเหมือนบรรยากาศการนอนแพในเชื่อนอีกหลายๆที่ แต่ความต่างของที่นี่ คือ ภาพรรยากาศที่หลากหลาย นอกจากน้ำใสใส ที่เราจะกระโดดเล่นหน้าแพ ที่พักชนิดที่ อยู่ในน้ำยังมองเห็นปลายเท้าตัวเองอย่างชัดเจน และน้ำ ด้านล่างยังมืดมิด หรือตื่นเช้ามาชมไอหมอก ที่ละไปตามผิวน้ำ และภูเขาที่รายล้อมอยู่นั้น เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ เย็นใจอย่างบอกไม่ถูก สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนแบบสบายๆ  รับรองว่าที่นี่ เป็นอีกสถานที่ ที่สุขใจ…. อย่างคาดไม่ถึง


CPS_0096




CPS_0036
สำหรับนักกิจกรรม ผู้ไม่เคยอยู่นิ่ง ที่เขาสก มีกิจกรรมตั้งแต่ เบาๆ ไปจนถึงหนักๆ ให้ทุกท่านได้สัมผัส เริ่มจากการ พายคายัค เบาๆ รอบๆอ่างเก็บน้ำ ชมนกน้ำ ชมธรรมชาติ  ไต่ระดับไปยังการนั่งแพ ไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง ถ้ำที่มีหินงอกหินย้อย สวยงาม ไปถึงน้ำตก และการล่องแก่ง  การปีนเขาเดินป่าไปยังจุดชมวิว ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ควรลองไป มุมที่ใครๆ ถ่ายภาพวิวของเขาสกมาให้ชม  ไม่ได้สวยแค่ภาพที่ได้มา ระยะทางที่ต้องเดินไปให้ถึงมีหลายอย่างที่ต่างไปจาก จุดชมวิว ที่อื่นๆ เห็ดเชปเปญสีสวยๆ หินปูนสลับซักซ้อนเหมือนผ้าม่านที่ปลิวไสว ป่าสีเขียวต้นไม้ใหญ่ และไม่แนะนำสำหรับคณะที่มีเด็กเล็ก….



เขื่อนเชี่ยวหลานสามารถ ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป



อุทยานแห่งชาติเขาสก จะแบ่งจุดท่องเที่ยวออกเป็น 2 ส่วน คือ


CPSkhaosokmap1
CPSkhaosokmap2


2kean
– แหล่งท่องเที่ยวบริเวณที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเขาสก เที่ยวชมป่าดิบชื้น บัวผุด และ น้ำตก เลี้ยวขวาหลักกิโลเมตรที่ 109 เข้าไปประมาณ 1.8 กม. ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งนักท่องเที่ยวชม วิวทิวทัศน์ เหนือเขื่อนการเดินป่า ชมดอกบัวผุด ซึ่งต้องเดินเข้าไปประมาณ 2 กม. หรือบางทีก็อาจ 5 กม. ดอกบัวผุดจะบานในช่วงเดือน พ.ย. – มี.ค.


CPS_0140




 – นั่งเรือเข้าไปชม กุ้ยหลินเมืองไทย เที่ยวถ้ำและพักค้างแรมในแพภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชประภา เลี้ยวขวาระหว่างหลักกิโลเมตร 57 – 58 ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอบ้านตาขุน เข้าเขื่อนรัชประภา ระยะทางประมาณ 12 กม. ถึงท่าเรือ ท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลาน (ต้องเดินทางถึงท่าเรือก่อน 17.00 น.) ลงเรือเพื่อไปนอนแพ
โดยทั้งสองที่อยู่ห่างกันประมาณ 60 ก.ม.









CPS_0053

ที่พักบริเวณเขื่อนรัชชประภา
ที่พักแบบเรือนแพของทางอุทยานแห่งชาติเขาสก


แพนางไพร โทร. 077-095025, 077-299318, 077-395139
แพคลองคะ  ชมรีวิวรายละเอียด คลิ๊ก แพคลองคะ 
แพโตนเตย จองที่พักผ่านเว็บไซต์อุทยาน
แพไกรสร  จองที่พักผ่านเว็บไซต์อุทยาน
จองที่พักของอุทยานแห่งชาติเขาสก แบบ online ได้ที่ http://www.dnp.go.th/   สอบถามโทร 077 395 154



ที่พักแบบเรือนแพของกรมป่าไม้
แพหน่วยฯคลองหยา หรือ แพคลองแสง เป็นแพที่อยู่ไกลที่สุด เป็นแหล่งตกปลา โทร.คุณโอ 08-6593-3440 (ทางแพไม่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา)

ที่พักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ( เขื่อนเชี่ยวหลาน) ติดต่อขอรายละเอียดหรือจองที่พักได้ที่ โทร.077-242561

ที่พักแบบเรือนแพ ของทางเอกชน
แพเพลินไพร โทร : 077-346097, 081-892 6321
แพสายชล โทร : 077-346013, 081-891-6052
แพเชี่ยวหลาน (เชี่ยวหลานจังเกิ้ลราฟท์) โทร : 089-1320007,089-8743300
แพ 500 ไร่  www.500rai.com
แพภูตะวัน โทร : 081-606-9007  http://www.ratchaprapadam.com/
แพไพรวัลย์ โทร : 080-6924-247

รีสอร์ทที่พักใกล้ อช. เขาสก
– ภูผาและลำธารรีสอร์ท โทร: 087-2718787
– Khao sok tree house resort  เว็บไซต์  http://www.khaosok-treehouse.com/
– Khaosok paradise resort  เว็บไซต์  http://www.khaosok-hotels.com/
– BaanKhao sok resort  โทร  081-9580185
– เขาสกดิสคัพเวอรี่ ที่พักสไตล์บูติกแคมป์  http://www.khaosokboutiquecamps.com/ โทร 076-521857, 081-3674723

การเดินทาง
1.โดยรถส่วนตัว
          จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปจนถึงจังหวัดชุมพรจากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุนจะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ
2 .โดยรถทัวร์
ขาไป
         จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถทัวร์ที่ไปยัง ภูเก็ต หรือ พังงาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลง ปากทางเข้าเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตรง อ.บ้านตาขุน ใช้เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ส่วนมากใช้บริการของ ภูเก็ตเซ็นทรัล หรือ ภูเก็ตท่องเที่ยว VIP24 ที่นั่ง ราคาประมาณ 1000 บาทหรือ แบบ 32 ที่นั่งราคาประมาณ 7xx บาท บอกพนักงานบนรถว่าขอลง อ.บ้านตาขุน (ปากทางเข้าเขื่อนเขี่ยวหลาน) เที่ยวรถมีรอบประมาณช่วง 19.00-20.00น  ขึ้นได้หมด รถน่าจะมาถึง อ.บ้านตาขุน ประมาณ 6.00น แวะไปกินโจ๊กก่อนเข้าไปในตัวเขื่อน  จากนั้นใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ
ขากลับ
         ขึ้นรถที่อ.บ้านตาขุน โดยซื้อตั๋วกลับได้ที่จุดขึ้นรถของบริษัทรถทัวร์ที่ให้บริการอยู่ในบริเวณนั้นซึ่งจะมี บริษัทภูเก็ตเซ็นทรัลทัวร์ ลิกไนต์ทัวร์ โดยมารอขึ้นรถที่บ้านตาขุน รถจะมาถึงประมาณทุ่มกว่าๆ

การเดินทางจากเมืองสุราษฎร์
           – นั่งรถตู้ สุราษฎร์- ตาขุน – เขื่อนรัชชประภา คิวรถอยู่ที่ ที่ตลาดเกษตร 2 ราคา ท่านละ 150 บาท
           – รถบัสโดยสารปรับอากาศ สาย 444 กระบี่-พังงา-ทุ่งมะพร้าว-ปากทางทับละมุ-เขาหลัก-ปากทางน้ำเค็ม-ตะกั่วป่า-อุทยานแห่งชาติเขาสก รถออกจาก บ.ข.ส. กระบี่ (ตลาดเก่า) เวลา 11.30 น. รถออกจากปากทางอุทยานแห่งชาติเขาสก เวลา 09.00 น.
3.รถไฟ
            ขึ้นรถไฟสาย กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน มีทั้งรถด่วนและรถเร็ว ลงที่สถานีรถไฟพุนพิน และนั่งรถประจำทางสายสุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า – ภูเก็ต รถเที่ยวแรกที่จะไปทางเชี่ยวหลานได้ คือตอน 6.30 น หลังจากนั้นก็จะมีรถบัส รถทัวร์ ต่างๆ วิ่งอยู่ตลอด ทุกชั่วโมง  ลงรถที่หลักกิโลเมตรที่ 109 แล้วเดินหรือใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก

- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6179#sthash.rpn8oV9E.dpuf


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ