ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ใครจะเชื่อ!!!…

พระเทพ

ใครจะเชื่อ!!!…แค่ภาพถ่ายใบเดียว เพียงชั่วข้ามคืน

จะทำให้แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆคนหนึ่งโด่งดัง

ไปทั่วประเทศ..จะแชร์สักกี่หมื่นกี่แสนครั้งก็ยังประทับใจ…

ไม่น่าเชื่อว่าแค่ภาพถ่ายใบเดียวที่ถูกแชร์ในเฟซบุ๊กเพียงชั่วข้ามคืน จะทำให้แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆคนหนึ่งโด่งดังไปทั่วประเทศ เป็นภาพถ่ายขณะที่ นางอัมพร โพธิ์ศรี วัย 46 เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ”นายทองสุข” ตรงข้ามวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี กำลังนั่งคุกเข่าเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยสีหน้าปลาบปลื้มใจยิ่ง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันหนึ่งของเดือนมิถุนายน ปี2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์มาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ โดยมิได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทรงสั่งและเสวยก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณอย่างไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางความประทับใจของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ อัมพร ยังจดจำวันนั้นได้อย่างแม่นยำ

“จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา คนมาทำบุญที่วัด มาเที่ยวกันที่ตลาดท่าน้ำกันเยอะมาก ร้านเราคนแน่นทุกโต๊ะเลย ประมาณ 11โมง พี่ยืนปรุงก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก็เห็นว่ามีตำรวจมากันเต็มเลย….แล้วก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาบอกว่าขอกันพื้นที่ไว้โต๊ะนึง สมเด็จพระเทพฯท่านจะเสด็จฯมาเสวยก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน เราก็ตกใจตั้งตัวไม่ทัน ตอนนั้นโต๊ะก็เป็นเหล็ก เก้าอี้พลาสติก ถ้วยชามธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ……. ก็กลัวว่าจะไม่เหมาะกับพระองค์ท่าน กลัวจะไม่สะดวกสบาย”….

เธอเล่าว่าบรรยากาศของตลาดท่าน้ำวัดศาลเจ้าขณะนั้นเป็นปกติ คนเดินกันพลุกพล่าน ลูกค้าทางร้านก็นั่งก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยว เสียงพ่อค้าแม่ค้าดังโหวกเหวก “แล้วเจ้าหน้าที่คนเดิมก็มาตามให้ไปรอรับเสด็จฯ บอกให้ไปกันทั้งร้านเลย……. พวกเราตื่นเต้นกันใหญ่ เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯเข้ามา ภาพที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือทุกคนที่นั่งเก้าอี้ หรือเดินอยู่ จู่ๆก็ลุกพรึ่บโดยอัตโนมัติ พากันลงนั่งคุกเข่ากับพื้นพร้อมกันทั้งร้านเลย…. พระองค์ท่านยิ้มแย้มทักทาย ทรงรับสั่งว่า ‘ ไม่เป็นไร ทำตัวตามปกติ ตามสบาย’

แล้วทรงสั่งเส้นเล็กแห้ง 1 ชามมาเสวยพร้อมกับข้าราชบริพารที่ติดตามมาด้วย”

สมเด็จพระเทพฯ ทรงเสวยก๋วยเตี๋ยว รวมถึงพระกระยาหารที่พ่อค้าแม่ค้าตลาดน้ำศาลเจ้านำมาถวายเต็มโต๊ะ ทั้งลูกชิ้นปิ้ง ก๋วยจั๊บ ขนมหวาน ผลไม้ สายตาลูกค้าทุกคนจ้องมองเป็นตาเดียวด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ไม่มีใครลุกจากที่นั่งเลยแม้แต่โต๊ะเดียว

“ ถึงขั้นเจ้าหน้าที่ต้องขอร้องว่าใครอิ่มแล้ว ลุกให้คนอื่นเขากินบ้าง แต่ใครจะลุกล่ะ ทุกคนก็อยากชื่นชมพระบารมีของพระองค์อย่างใกล้ชิดทั้งนั้น” อัมพรหัวเราะ

จากนั้นสมเด็จพระเทพฯ ทรงเรียกอัมพรมาคุย ไถ่ถามเรื่องทั่วไป เป็นต้นว่าทองสุขคือชื่อใคร เปิดมากี่ปีแล้ว เมื่อตอบว่าทองสุขคือชื่อคุณพ่อ เปิดมานาน 55 ปีแล้ว พระองค์ทรงตรัสถามต่อว่าแล้วแม่ล่ะไปไหน ไปเรียกมาคุยหน่อย อัมพรจึงไปประคองแม่ ฮุ่ยเค็ง แซ่ตั๊ง มานั่งคุยด้วย “ พระองค์ท่านตรัสให้แม่นั่งเก้าอี้ ไม่ต้องนั่งพื้น เพราะเห็นว่าอายุมากแล้ว เกรงว่าเข่าขาจะไม่ดี พระองค์ท่านใจดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง เหมือนคนธรรมดา น้ำเสียงนุ่มนวล ไม่ถือพระองค์เลย ก่อนกลับท่านรับสั่งให้แม่ชงโอเลี้ยงถวาย 2 แก้ว แถมใส่กระติกกลับไปด้วย แล้วท่านก็รับสั่งให้คิดเงิน เราไม่อยากรับ เพราะแค่พระองค์เสด็จฯมาก็เป็นบุญของพวกเราแล้ว ท่านบอกไม่รับไม่ได้ พระองค์ทรงพระราชทานเงินใส่ซองมาให้ 5,000 บาท รับสั่งว่าเอาไว้เป็นขวัญถุง”

ขอพระองค์ทรงพระเจริญณ นายทองสุข

ในตลาดริมน้ำ วัดศาลเจ้า ปทุมธานี

ขอขอบคุณ Cr.Information Division of OHM

- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6228#sthash.CcFsbGz9.dpuf

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ