ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นักเรียนพยาบาลทหาร : ตัวแทนสตรีแห่งดวงประทีป

พยาบาล4
เนื่องในวันพยาบาลสากล 12 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันที่เหล่าพยาบาลทั้งมวล จักได้ระลึกถึงคุณความดีของมิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ผู้วางรากฐานการพยาบาลแผนใหม่ ให้เกิดคุณประโยชน์ต่อสังคมอย่างอเนกอนันต์และทำให้สังคมยอมรับยกย่องและเห็นคุณค่าของวิชาชีพการพยาบาลอย่างแท้จริง
มิสไนติงเกลเกิดในตระกูลคหบดีอังกฤษ ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1820 ได้รับการศึกษาอย่างดีตามแบบกุลสตรีชั้นสูง ที่มีความสามารถและพูดได้หลายภาษา มีบุคลิกลักษณะที่งามสง่า รูปร่างหน้าตาสวยงาม และมีความเป็นมิตร ท่านประสงค์จะเรียนวิชาการพยาบาลแต่ครอบครัวไม่เห็นด้วย ท่านต้องรอจนอายุ 30 ปีจึงได้รับอนุญาตให้เรียนได้ เมื่อสำเร็จการศึกษาท่านเป็นพยาบาลที่ดีและเห็นคุณค่าของพยาบาลในการดูแลสุขภาพของประชาชน จึงได้อาสาไปช่วยพยาบาลทหารอังกฤษที่บาดเจ็บในสงครามไครเมียร์ ท่านได้จัดระบบสุขาภิบาลของโรงพยาบาลในค่ายทหารและปรับปรุงวิธีการพยาบาล มีผลทำให้ทหารบาดเจ็บที่ถูกทอดทิ้งได้รับการดูแลดีขึ้นมาก โดยสามารถลดอัตราการตายจาก 42%ให้เหลือเพียง 2 % ทั้งนี้ด้วยความทุ่มเทและเสียสละของท่าน จนท่านได้รับสมญานามจากทหารที่บาดเจ็บว่าเป็นสุภาพสตรีแห่งดวงประทีป (The lady of the lamp)
ภายหลังจากมิสไนติงเกลกลับจากสงครามไครเมียร์ ท่านได้รับการเชิดชูเกียรติ์และเงินรางวัลจำนวนมาก ท่านจึงนำเงินที่ได้รับเหล่านี้ไปสมทบกับกองทุนไนติงเกลเพื่อสร้างโรงเรียนพยาบาลไนติงเกล ณ โรงพยาบาลเซนต์โทมัส กรุงลอนดอน เพื่อผลิตพยาบาลแผนใหม่ที่มีคุณภาพ ออกไปเป็นผู้นำการพยาบาลในสถาบันต่างๆ ทั้งในสก๊อตแลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ สานุศิษย์ของท่านได้รับการยอมรับจากแพทย์และบุคคลทั่วไปว่าเป็นพยาบาลที่มีความสามารถสูง จึงนับได้ว่าท่านเป็นผู้วางรากฐานการพยาบาลแผนใหม่ โดยเริ่มจากการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพโดยตัวท่านเองและคณะ เพื่อทำให้สังคมยอมรับ เกิดศรัทธาและเห็นความสำคัญของการพยาบาล นอกจากนี้ท่านได้เสนอความคิดเห็นเพื่อกำหนดนโยบายสุขภาพแห่งชาติ สร้างระบบการบริการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ก็จัดให้มีการผลิตพยาบาลในสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อสนองความต้องการของสังคมในวงกว้าง ความมีเมตตาธรรมของมิสไนติงเกลจึงปรากฏชัดเจนต่อประชาชนทั่วไป ผู้เจ็บป่วย แพทย์ พยาบาลและสังคมโลก และท่านยังได้ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นตลอดมาจนถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1910 รวมอายุได้ 90 ปี
ผลงานของมิสไนติงเกลมีมากมาย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาความเป็นวิชาชีพของการพยาบาล ให้มีคุณค่าเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป การสร้างโรงเรียนพยาบาลไนติงเกลโดยไม่อิงศาสนาใดๆ เพื่อให้มีการบริหารจัดการได้อย่างอิสระด้วยเงินทุนจากกองทุนไนติงเกล จนสามารถผลิตพยาบาลแผนใหม่ไปเป็นผู้นำการพยาบาลทั่วโลกและทำให้การพยาบาลมีความเจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ จึงนับได้ว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งที่ได้สร้างอาชีพอันมีเกียรติ มั่นคงและยิ่งใหญ่ให้แก่เหล่าสตรีและบุรุษทั่วโลกจำนวนมากที่เป็นพยาบาลอยู่ทุกวันนี้ ได้มีวิถีชีวิตที่เพียบพร้อมด้วยฐานะและความเป็นอยู่ที่ดี ท่านจึงเป็นบุคคลที่ควรได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมและถึงพร้อมด้วยสติปัญญา ดังคำกล่าวที่ว่า “Miss Florence Nightingale : A woman of vision and drive, who is not only the lady with the lamp but also the lady with the brain”
ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วกันคำว่า ตัวแทนสตรีแห่งดวงประทีป ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับสุภาพสตรีอีกมากมายที่ต้องการเดินในเส้นทางสีขาวนี้
พยาบาล1
ว่าด้วย นักเรียนพยาบาลทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ 
การเรียน การสอน เรียนพยาบาล และ เรียน รู้เกี่ยวกับ เรื่องทหาร และการฝึกทหาร ด้วยให้มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ อดทน
อยากเรียน พยาบาลทหาร ต้องเตรียมตัวอย่างไร !!
พยาบาล2
สังกัดเหล่าทัพ ช่วงอายุที่รับสมัคร น้ำหนัก ความสูง
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก 16-25 ปี 45 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ 17-20 ปี 42 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร
วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ 17-22 ปี 40-65 กิโลกรัม ไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร
วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ 16-25 ปี 45 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร
สอบวิชา ภาษาไทย สังคม ภาษาE อังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก GAT PAT2 ONET
อื่นๆ ไม่มีทดสอบร่างกาย มีแค่ตรวจสุขภาพ และการทดสอบสุขภาพจิต
จำนวนรับสมัครของแต่ละกองทัพ
– จำนวนนักเรียนที่รับต่อปี 60 คน เป็นทุนส่วนตัว
– จำนวนนักเรียนที่รับต่อปี 20 คน เป็นทุนกองทัพ
ช่วงรับสมัคร มกราคม ถึงเดือน มีนาคม ของที่ปี
ค่าเทอมโดยประมาณปีการศึกษาแรก
ค่าใช้จ่าย นักเรียนทุนกองทัพ จำนวนทั้งสิ้น 17,785.00 บาท
นักเรียนทุนส่วนตัว จำนวนทั้งสิ้น 58,835 บาท ( แบ่งชำระ เป็น 2 งวด งวดแรกชำระในวันทำสัญญา จำนวน 33,960 บาท งวดที่ 2 ชำระภายในเดือน ต.ค. จำนวน 24,875 บาท )
ค่าใช้จ่ายในชั้นปีที่ 2 – 4
1 ชั้นปีที่ 2 ทุน ทอ. 9,500 ทุนส่วนตัว 38,550
2 ชั้นปีที่ 3 ทุน ทอ. 9,500 ทุนส่วนตัว 35,750
.3 ชั้นปีที่ 4 ทุน ทอ. 9,500 ทุนส่วนตัว 34,350 (อัตราค่าธรรมเนียมนี้ กำหนดไว้เมื่อ พ.ศ.2544 วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม )
Cr. ภาพ www.rtncn.ac.th
- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6153#sthash.EzDUWfQo.dpuf

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ