ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องเล่า จากรั้ว….


มึง เด็ดหัว พลฯ สื่อสารมันก่อนนะ ไอ้คนที่มีวิทยุบนหลัง
ผมสั่งลูกน้องที่ยิงแม่นที่สุด mark จุดที่จะซุ่มโจมตี
ที่เหลือ กระจายกำลังซุ่มบริเวณตำบลที่เหมาะสมต่อการซุ่มโจมตี เรียงกันเป็น 2 ด้าน คล้ายเส้นขนาน คล้ายรางรถไฟ
ตรงกลางระหว่างเราเป็นพื้นที่ สังหาร (Killing Zone) ฝ่ายตรงข้ามเข้าพื้นที่นี้เมื่อไหร่
ให้ยิงประสานเป็นเป็นตาข่าย อย่าให้พวกมันรอดไปแม้แต่คนเดียว รับทราบ!!!!
รับทราบ! ลูกน้องทั้ง 10 ทวนคำสั่งก่อน แยกย้ายประจำตำแหน่ง ซุ่มรอ
ผมเป็นหัวหน้าหมวดปืนเล็ก คุมกำลังพล 10 คน ได้รับมอบหมายภารกิจซุ่มโจมตี กองกำลังฝ่ายตรงข้าม
พวกเราเดินทางมายังพิกัดเป้าหมาย ทวนแผนการซุ่มโจมตี ก่อนวางกำลังตามตำแหน่ง
การซุ่มโจมตี เป็นวิธีที่ใช้กำลังพลจำนวนน้อย เคลื่อนกำลังสะดวก ใช้วิธีโจมตีแบบฉาบฉวย หลบหลีกได้ง่าย สร้างความเสียหาย หรือ ตัดกำลังฝ่ายตรงข้ามได้สูง แต่ การสูญเสียกำลังพลต่ำ
เราเข้าถึงจุดซุ่มเวลา 3 ทุ่ม(09.00) เวลานัดหมายจากสายข่าว ฝ่ายตรงข้ามจะถึงจุดซุ่มโจมตีคือ เที่ยงคืน  00.00 น.
สถานาการณ์อึมครึม อึดอัด ร้อนอบอ้าว ยุงกัด ความเหนื่อยล้าจากภูมิประเทศที่หฤโหด
พวกเราซุ่มเงียบที่สุด การเคลื่อนไหวแต่เพียงน้อยนิดหมายถึง ชีวิตที่ปลิดปลิวไปกับคมกระสุนฝ่ายตรงข้าม
สถานการณ์ กลางคืน การตรวจการณ์ ทำได้ไม่กี่เมตร การเงียบจึงสำคัญที่สุด
นาน สองนาน ขณะทุกสิ่งกำลังเงียบกริบ ทันใดนั้น เสียงโป้งป้าง ๆ ดังสนั่นหวั่นไหว ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
พวกมึงถูกล้อมไว้หมดแล้ว และ พวกมึงโดนรุมสังหารตายหมดเกลี้ยง
มาเรียงหน้ากระดาน ปฏิบัติ!!!
เสียงดัง ฟังชัด ราวมัจจุราชสั่ง พวกเราสะดุ้งตื่น ตาเหลือก วิ่งเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน
ก่อนครูฝึกจะสั่งซ่อม ยึดพื้นคนละ 100 ครั้ง ผมหัวหน้า โดนหนักกว่าเพื่อน 150 ครั้ง
โทษฐาน พาลูกน้องตายเรียบ ด้วยเสียงประทัดของครูฝึกที่แอบย่องเข้ามาแล้วจุดประทัดยังกะเทศกาลตรุษจีน
ขณะที่เข้าเรียนฐานซุ่มโจมตี เราผ่านมาหลายฐาน  เหนื่อย สุด ๆ ร่างกายไม่ไหว ขณะซุ่ม จึงเผลอนอนหลับทั้งหมู่
จะตื่นอีกที  ก็เสียงปลุกจากประทัด ครูฝึก
ข้าศึกนะเหรอ ? หึ หึ เดินผ่าน ไม่เหยียบหัวพวกเราก็บุญแล้ว (เพื่อน รด.ที่เรียนการหลบหลีกจากการซุ่มโจมตี)
มันเป็นประสบการณ์การฝึกภาคสนาม ของกองอาสารักษาดินแดนหรือ รด. ที่ผมประทับใจไม่รู้ลืม
ครูสรุปบทเรียนที่ฐาน “วินัยที่หย่อนยาน คือ การผลาญชีวิตตัวเองและเพื่อนที่เลือดเย็นที่สุด”
ถ้าเป็นการรบจริง นอนหลับอย่างนี้ ได้นอนเฝ้าผีเพื่อน ๆ แน่ พวกเอ็ง ครูฝึกหัวเราะ 5 5555
….
…ครูต้วย  ควายคึก….
- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6211#sthash.nSA9bQLf.dpuf

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ที่มาของคำว่า เสียหมา

  มีเรื่องเล่าที่อยากมาแชร์ แต่ไม่การันตีว่าจริงแท้แค่ไหนนะเออ.... ที่มาของคำว่า .....เสียหมา.... ** "เสียหมา"** แล้ว "เสียหมา" ทำไม? จึงหมายถึง "เสียฟอร์ม - เสียท่า" "เสียหมา" เกิดขึ้นในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อประมาณ 30 - 40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาหนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือ หรือพวก "เวียดกง" "เวียดกง" เป็นเจ้าของกลยุทธ์ การสู้รบแบบ "กองโจร" "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม" ไม่สู้แบบปะทะตรงๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ "กองโจร" ใช้วิธีซุ่มโจมตีแทน ที่เด็ดมาก และแสดงถึงความมานะอดทนของ "เวียดกง" ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกลๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไป วันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของ "เวียดกง" ได้สำเร็จเขาใช้สุนัขทหารที่ดมกลิ่นเก่งมากๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป พอเจออุโมงค์ที่ไหน มันก็จะเห่าบอ

สด.8 คืออะไร

สด. 8           ใบ สด.8 คือ สมุดประจำตัวของทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการแล้วรวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปี 3(รด) เป็นหนังสือสำคัญ ที่ติดมาพร้อมกับ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ สด.8 จะอยู่ในสมุดประจำตัวทหารกองหนุน พร้อมหนังสือสำคัญ(แบบ สด.8) หน้ากลางเล่ม เวลาใช้งานให้ถ่ายเอกสารหน้ากลางตรงส่วนที่ระบุว่า สด.8 ทั้งสองส่วน ซึ่งจะได้รับ สด. 8 เมื่อ รับราชการทหารกองประจำการ (คือ เป็นทหารเกณฑ์ ) จนครบกำหนดปลด        เรียน รด. จบปี 3 (เพราะ จบ รด. ไม่ต้องไป เกณฑ์ทหาร และไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ )        เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และ นำปลด เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1       ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรับราชการในกองประจำการ ( ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั่นเอง )        แต่ ยังคงเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 การนับอายุของทหาร        การนับอายุจะนับที่ปี พ.ศ. โดยเกิด 1 มกราคม ไปจนถึง เกิด 31 ธันวาคม ของปี ใดก็ตาม ถือว่า อายุ เท่ากัน ทั้งปี และ เริ่มนับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็น อายุ ครบ ปี บริบูรณ์       ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แบ่ง

…..จอมพลสอนทหาร ………..

             ๑. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ อย่าเป็นคนหูเบา แต่ก็มิใช่เป็นคนหูหนวกตาบอด ต้องฟังต้องดูอย่างกว้างที่สุด อยู่เสมอ แต่อย่าเชื่อคนสอพลอ หรือเชื่อคนพูดก่อนและฟ้องก่อน เพราะคนพูดภายหลังอาจพูดจริงกว่าคนที่พูดก่อนก็เป็นได้             ๒. เมื่อมีความขุ่นข้องกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้น้อย เมื่อได้ว่ากล่าวลงโทษ หรือตักเตือนแล้ว จงอย่าจำเอาไว้ อาฆาตมาดร้ายภายหลังอีก             ๓. ให้พยายามหาความดีความงามมาสู่คณะ และปูนบำเหน็จกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และผู้น้อย สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับตามโอกาสที่จักพึงหาได้นั้นอยู่เสมอ             ๔. จงติโทษหรือลงโทษผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะที่ทำผิด โดยไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเกลียด ให้เคร่งครัดอยู่เสมอ จะละเลยเสียมิได้เป็นอันขาด เพราะภายหลังจะกำเริบและแก้ไขยาก             ๕. จงอย่าใช้อำนาจราชการลงโทษกับผู้ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในขณะเมื่อตนบันดาลโทสะ และอย่ากล่าวคำหยาบ ให้กระทบกระเทือนถึงวงศ์ตระกูล เพราะผู้อื่นเขาก็มีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนเราเหมือนกัน             ๖. จงบำรุงการสมาคม และแสดงกิริยา วาจา ใจ ให้เป็นการโอภ