ความหมายของวันกาชาดสากล
กาชาด เป็นคำที่ใช้เรียกหน่วยงานสากลที่ประกอบด้วยอาสาสมัครจากทั่วโลก และมีจุดประสงค์ ในพิทักษ์ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ การบรรเทาทุกข์และการรักษาพยาบาลโดยไม่เลือกชาติพันธุ์ เชื้อชาติ เพศ ความเชื่อทางศาสนา ระดับชั้นในสังคม หรือ ความคิดเห็นทางการเมือง หน่วยงานในประเทศไทย เรียก สภากาชาดไทย และใช้ตรากากบาทแดง เป็นตราสัญลักษณ์
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Committee of the Red Cross; ICRC / ฝรั่งเศส: Comité international de la Croix-Rouge (CICR))
เป็นองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เมื่อปี พ.ศ. 2406 โดยการนำของ นายอ็องรี ดูว์น็อง มีสำนักงานที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประเทศสมาชิกยอมรับให้เป็นองค์กรอิสระ ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International humanitarian law) แห่งอนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions) ซึ่งถือเป็นกฎหมายนานาชาติตามธรรมเนียม มีภารกิจทั่วโลกในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบและสถานการณ์ความรุนแรงอื่นๆ ซึ่งรวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ผู้ลี้ภัย เชลยสงคราม และพลเรือนที่ได้รับผลกระทบ
การจัดตั้งสำนักงานของ ICRC นั้นขึ้นอยู่กับระดับของการสู้รบและสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่นั้นๆ ปัจจุบัน ICRC มีเจ้าหน้าที่ 11,000 คนปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก สำนักงานใหญ่ของ ICRC ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ ทำงานครอบคลุมประเทศไทย กัมพูชา ลาวและเวียดนาม
คนไทยจำนวนมากมักเข้าใจผิดว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นองค์กรเดียวกับสภากาชาดไทย และนิยมเรียกผิดว่าสภากาชาดสากล แต่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดง (Movement of the Red Cross) เช่นเดียวกับสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies) และ สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดง (National Societies) ของแต่ละประเทศ
การจัดตั้งสำนักงานของ ICRC นั้นขึ้นอยู่กับระดับของการสู้รบและสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่นั้นๆ ปัจจุบัน ICRC มีเจ้าหน้าที่ 11,000 คนปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก สำนักงานใหญ่ของ ICRC ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ ทำงานครอบคลุมประเทศไทย กัมพูชา ลาวและเวียดนาม
คนไทยจำนวนมากมักเข้าใจผิดว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นองค์กรเดียวกับสภากาชาดไทย และนิยมเรียกผิดว่าสภากาชาดสากล แต่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดง (Movement of the Red Cross) เช่นเดียวกับสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies) และ สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดง (National Societies) ของแต่ละประเทศ
ด้วยหลักการกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงที่เน้นการปฏิบัติงานอย่างเป็นอิสระ เป็นกลาง และไม่เลือกปฏิบัติ ทำให้เราสามารถปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือและปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของเหยื่อจากการสู้รบและสถานการณ์ความรุนแรงเหล่านั้นได้ โดยการติดต่อพูดคุยกับคู่กรณีและกองกำลังทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มติดอาวุธ เรื่องการให้ความเคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎข้อบังคับขั้นพื้นฐานต่างๆในการปกป้องบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์ความรุนแรง
ด้วยหลักการกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงที่เน้นการปฏิบัติงานอย่างเป็นอิสระ เป็นกลาง และไม่เลือกปฏิบัติ ทำให้เราสามารถปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือและปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของเหยื่อจากการสู้รบและสถานการณ์ความรุนแรงเหล่านั้นได้ โดยการติดต่อพูดคุยกับคู่กรณีและกองกำลังทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มติดอาวุธ เรื่องการให้ความเคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎข้อบังคับขั้นพื้นฐานต่างๆในการปกป้องบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์ความรุนแรง
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เป็นองค์กรที่เก่าแก่ที่สุดและทรงเกียรติในขบวนการกาชาด และเป็นหนึ่งในการบริหารองค์กรที่ขยายตัวมากที่สุด โดยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 3 ครั้งคือเมื่อ พ.ศ. 2460 พ.ศ. 2487 และ พ.ศ. 2506
ภารกิจของ ICRC
- การพยายามทำให้พลเมืองผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสู้รบและเหตุการณ์ความรุนแรงได้รับการละเว้นและปกป้อง
- เข้าเยี่ยมเชลยสงครามและผู้ต้องขังจากข้อหาความมั่นคง
- ส่งข้อมูลข่าวสารให้สมาชิกในครอบครัวที่ต้องพลัดพรากเนื่องจากการสู้รบ
- สืบหาผู้สูญหายอันเนื่องมาจากสงครามและความไม่สงบ
- ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นทางด้านการแพทย์
- จัดหาอาหาร น้ำสะอาด สาธารณูปโภคและที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้ประสบภัยจากสงคราม
- เผยแพร่กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
- เฝ้าสังเกตการบังคับใช้เพื่อให้มีการปฏิบัติตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
- ช่วยผลักดันการพัฒนาข้อกฎหมายและอนุสัญญาต่างๆให้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
- ลดผลกระทบจากกับดักระเบิดและซากอาวุธอื่นๆที่มีต่อผู้คน
- ให้การสนับสนุนการทำงานของสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การสู้รบและความรุนแรงอื่นๆ
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทราบถึงภารกิจและบทบาทขององค์กรกาชาดด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยาก โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา วรรณะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง คณะกรรมการการชาดระหว่างประเทศ ร่วมกับ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ได้กำหนดให้วันที่ 8 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันกาชาดสากล และยังเป็นวันคล้ายวันเกิดของ นายอ็องรี ดูว์น็อง (นายอังรี ดูนังต์) ผู้ให้กำเนิดกาชาดสากล เป็นวันกาชาดโลก โดยได้ขอความร่วมมือให้สภากาชาดทั่วโลกจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลเพื่อมนุษยธรรมที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง
องค์กรกาชาดให้ความสำคัญเรื่องของมนุษยธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการกาชาดที่สำคัญที่สภากาชาดทุกประเทศทั่วโลกต้องตระหนัก และให้มีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง สำหรับสภากาชาดไทย กำหนดจัดงานวันกาชาดโลกขึ้น โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างองค์กรกาชาดสากล และสภากาชาดไทย มุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของอาสาสมัครสภากาชาดไทยกับกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
กิจการกาชาดถือกำเนิดขึ้น โดยมีเครื่องหมายสีแดงบนพื้นขาว เป็นสัญลักษณ์ของกาชาดที่รู้จักกันทั่วโลก และการใช้เครื่องหมายนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้นกำเนิดของกาชาด สัญลักษณ์ดังกล่าวจะมีลักษณะกลับกันกับธงชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดว่า เครื่องหมายกากบาทมีความสำคัญทางศาสนาคริสต์ จึงได้มีการกำหนดเครื่องหมายเสี้ยววงเดือนแดงใช้ในประเทศมุสลิม โดยเรียกว่า “สภาเสี้ยววงเดือนแดง” แทน “สภากาชาด” แต่ก็มีหลักการและหน้าที่ไม่แตกต่างกัน
โดยยึดหลักการกาชาด 7 ประการคือ มนุษยธรรม, ความไม่ลำเอียง, ความเป็นกลาง, ความอิสระ, บริการอาสาสมัคร, ความเป็นเอกภาพ, ความเป็นสากล
มนุษยธรรม
กาชาด เกิดขึ้นมาจากความปรารถนาที่จะนำความช่วยเหลือโดยมิเลือกปฏิบัติมาสู่ผู้บาดเจ็บในสนามรบ กาชาดเพียรพยายามทั้งในฐานะระหว่างประเทศและในระดับชาติเพื่อป้องกัน และบรรเทาความทุกข์ทรมานของมนุษย์ไม่ว่าจะพบได้ในที่ใด ความมุ่งประสงค์ของกาชาดได้แก่การคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และการประกันความเคารพนับถือต่อมนุษยชน กาชาดส่งเสริมความเข้าใจ มิตรภาพ ความร่วมมือระหว่างกัน และสันติภาพยั่งยืนระหว่างประชากรทั้งมวล
ความไม่ลำเอียง
กาชาด ไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องสัญชาติ เชื้อชาติ ความเชื่อถือทางศาสนา ชั้น วรรณะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง กาชาดเพียรพยายามอย่างเดียวที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมาน โดยให้การปฏิบัติเป็นลำดับแรกต่อกรณีความทุกข์ยากที่เร่งด่วนที่สุด
ความเป็นกลาง
เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจสืบต่อไปจากทุกฝ่าย กาชาดไม่อาจเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในการสู้รบ หรือเกี่ยวข้องไม่ว่าในเวลาในการขัดแย้ง ซึ่งมีลักษณะทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และลัทธินิยม
ความเป็นอิสระ
กาชาด เป็นอิสระ สภากาชาดแม้จะมีส่วนช่วยเหลือในบริการด้านมนุษยธรรมของรัฐบาลของตน และอยู่ในบังคับแห่งกฎหมายของประเทศตน จะต้องธำรงความเป็นอิสระอยู่ต่อไป เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติตามหลักการกาชาดได้ทุกเวลา
บริการอาสาสมัคร
กาชาดเป็นองค์การอาสาสมัครในการบรรเทาทุกข์ โดยไม่มีความปรารถนาผลประโยชน์ในประการใดๆ
ความเป็นเอกภาพ
ในประเทศพึงมีสภากาชาดได้เพียงแห่งเดียว สภากาชาดต้องเปิดให้กับคนทั่วไป สภากาชาดต้องปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมตลอดทั่วดินแดนของตน
ความเป็นสากล
กาชาด เป็นสถาบันสากล ซึ่งสภากาชาดทั้งมวลสังกัดอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน และมีส่วนความรับผิดชอบและหน้าที่เท่าเทียมกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ปัจจุบัน มีสภากาชาดของประเทศต่างๆ ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศจำนวน 181 ประเทศ สำหรับสภากาชาดไทยเป็นสมาชิกของสหพันธ์สภากาชาด และสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศลำดับที่ 31
บทบาทของสภากาชาดสากล
จากการบุกเบิกของ นายอ็องรี ดูว์น็อง ร่วมกับทนายความคนสำคัญ คือ กุสต๊าฟ มัวนิเอร์ ทำให้ขบวนการกาชาดประสบความสำเร็จ และกลายเป็นสภากาชาดสากล มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมมากมาย โดยสภากาชาดของแต่ละประเทศจะเป็นองค์กรอิสระ สามารถจัดวางแผนงานของตนให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ ขณะที่องค์กรกาชาดสากล ประกอบด้วย 3 องค์กรหลัก ดังนี้
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC มีพันธกิจในการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากภัยสงครามและความขัดแย้ง ทั้งในระดับระหว่างประเทศและภายในประเทศ ได้รับการรับรองจากอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นกฏหมายระหว่างประเทศที่มีการลงนามรับรองโดย 194 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
สหพันธ์กาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ หรือ IFRC มีหน้าที่ในการประสานงานและรวบรวมสรรพกำลังของประเทศสมาชิก ในการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติขั้นรุนแรง ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง เช่น เหตุการณ์แผ่นดินถล่มในอัฟกานิสถาน หรือ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ
สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดง (National Societies) ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งประกอบไปด้วย การบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดภัยพิบัติ การบริการด้านสุขภาพและสังคม ทั้งนี้ในยามสงครามมีหน้าที่ช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบและช่วยงานของหน่วยบริการแพทย์ทหารตามสมควร ปัจจุบันมีสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงกว่า 186 ประเทศทั่วโลก
- See more at: http://www.weloverta.org/site/?p=6131#sthash.2M5iVIHr.dpuf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น